OSP ซื้อหุ้นเพิ่มทุนโรงงานผลิต-จำหน่ายขวดแก้วในเมียนมาร์ 139 ลบ.

HoonSmart.com>> “โอสถสภา” เดินหน้าขยายธุรกิจต่างประเทศ ซื้อหุ้นเพิ่มทุน MGG สัดส่วน 51.84% ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายขวดแก้วในเมียนมาร์ มูลค่า 139 ล้านบาท พร้อมส่ง MGE เซ็นสัญญาเงินกู้เอ็กซิมแบงก์วงเงิน 886.4 ล้านบาท ใช้ก่อสร้างโรงงานผลิตขวดแก้ว

บริษัท โอสถสภา (OSP) แจ้งว่า ตามที่บริษัทฯ เข้าลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายขวดแก้วในประเทศเมียนมาร์ผ่านการลงทุนในบริษัท เมียนมาร์ โกลเน อีเกิ้ล จำกัด (MGE) ซึ่งลงทุน ณ วันที่ 13 พ.ย.2562 และบริษัท เมียนมาร์ โกลเด้น กลาส จํากัด (MGG) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน เพื่อขยายธุรกิจต่างประเทศของบริษัทฯ ว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2563 กลุ่มบริษัทได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุน MGG ทำให้มีกลุ่มบริษัทส่วนได้เสียใน MGG คิดเป็น 51.84% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดในหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ

ทั้งนี้กลุ่มบริษัทซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 6,093,330,000 เมียนมาร์จัต หรือประมาณ 139,537,257 บาท หรือ 4,332,191 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา โดยในวันที่ 19 พ.ค.2563 ลงทุนจํานวนรวม 4,708,866,945 เมียนมาร์จัต หรือประมาณ 107,833,053 บาท หรือ 3,347,875 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และภายในวันที่ 15 ธ.ค.2563 จํานวนรวม 1,384,463,055 เมียนมาร์จัต หรือประมาณ 31,704,204 บาท หรือ 984,315 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา โดยการลงทุนในครั้งนี้ใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

นอกจากนี้ MGE ซึ่งบริษัทถือหุ้นผ่านบริษัทย่อย 35% ได้เข้าทําสัญญาเงินกู้ (Loan Facility Agreement) กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนําเข้าแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2563 เป็นวงเงินกู้ยืมจํานวน 27.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 886.4 ล้านบาท เพื่อใช้ในก่อสร้างและประกอบกิจการโรงงานผลิตขวดแก้วดังกล่าว

สำหรับโครงสร้างการถือหุ้นภายหลังการลงทุน ได้แก่ บริษัท เอสเอสบี เอ็นเตอร์ไพรซ์ จํากัด (SSB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทถือหุ้นสามัญในสัดส่วน 25% Oventure Pte. Ltd. (OVT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ถือหุ้นสามัญ 55.44% และ MGE Holdings Pte Ltd. (MGEH) ถือหุ้นบุริมสิทธิในสัดส่วน 19.56%