เอเซียพลัส : เชียร์ “ซื้อ” STARK ชี้เป้า 2.52 บาท

HoonSmart.com>>”เอเซียพลัส ” ชี้เป้า STARK ปี 64 ที่ 2.52 บาท มองการเติบโตก้าวกระโดดจากการทำ M&A ประมาณการกำไรปีนี้  784 ล้านบาท เติบโตกว่า 5 เท่าตัว และปี 2564 กำไรจะก้าวกระโดด มาอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ประเมิน FV (มูลค่าเหมาะสม)  ณ สิ้นปี 2564 เท่ากับ 2.52 บาท/หุ้น (ภายใต้สมมติฐานที่มีโอกาสเติบโตจากการทำ M&A เพิ่มเติม และต้องไม่มีการเพิ่มทุนจากนี้) อิง PER 45 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย PER หุ้นกลุ่มเดียวกันที่เป็นคู่แข่งอย่าง CTW ซึ่งมี PER 26 เท่า เพราะ STARK อยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างก้าวกระโดด (Growth stage)

เตรียมขึ้นแท่นผู้ผลิตสายไฟชั้นนำของโลก

แรงขับเคลื่อนกำไรของ STARK จากนี้จะมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมไฟฟ้า ซึ่งอิงกับแผน PDP รวมถึงการซื้อกิจการที่เวียดนาม ซึ่งจะช่วยยกระดับฐานกำไรปี 2563 ขึ้นมาอยู่ที่ 784 ล้านบาท (เติบโตกว่า 5 เท่าตัว) และปี 2564 กำไรจะก้าวกระโดด มาอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท

STARK ผู้ผลิตสายไฟของไทยรายใหญ่อันดับ 2 ภายใต้แบรนด์ “Phelps dodge”
ก่อนจะเป็น STARK เดิมคือบริษัท SMM ที่ประกอบธุรกิจสื่อและมัลติมีเดีย แต่ได้ถูก STARK เข้าซื้อธุรกิจแบบย้อนกลับ (Reverse Takeover) และขายธุรกิจเดิมออกไปเมื่อ 15 ส.ค. 62

ปัจจุบัน STARK เป็น holding company ถือหุ้นบริษัท PDITL 99.3% ซึ่งทำธุรกิจผลิตและขายสายไฟฟ้าและเคเบิ้ลภายใต้แบรนด์ Phelps Dodge (90% ของรายได้รวม) โดย PDITL มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงอันดับที่ 13 ของโลก และอันดับที่ 2 ของไทยอีกทั้งเป็นบริษัทเดียวในอาเซียน ที่ผลิตสายไฟแรงดันสูงพิเศษได้ จึงทำให้มีอัตรากำไรเหนือคู่แข่ง

นอกจากนี้ ยังมีอีกธุรกิจคือ ให้บริการทรัพยากรบุคคล ในธุรกิจผลิตและสำรวจปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นบริษัท อดิสร สงขลา 99.9% (10% ของรายได้รวม) เพิ่มความแข็งแกร่งด้วยการซื้อ “Thipha Cable” ผู้ผลิตสายไฟรายใหญ่ของเวียดนาม

โดยปกติแล้ว ผลิตภัณฑ์สายไฟฟ้าและเคเบิ้ล จะเติบโตตามการเติบโตขอเศรษฐกิจ (GDP Growth) ของแต่ละประเทศ ถึงแม้ในระยะสั้น อาจมีการชะลอตัวบ้างตามเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่ภาพระยะยาว ยังเห็นการเติบโตที่ชัดเจนทั้งในไทยและอาเซียน โดยเฉพาะในเวียดนาม ที่อยู่ในช่วงการเติบโตสูง GDP Growth 6-8% ต่อปี ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

STARK เล็งเห็นผลบวกดังกล่าว จึงเข้าซื้อบริษัท Thipha Cable และ Dovina ผู้ผลิตสายไฟฟ้าและเคเบิ้ลชั้นนำของเวียดนาม คาดดีลจะแล้วเสร็จใน 2Q63 ซึ่ง STARK เห็นถึงโอกาส Integration ร่วมกัน เนื่องจาก เวียดนามมีความได้เปรียบในด้านต้นทุนค่าไฟและแรงงานที่ถูกกว่าไทย ขณะที่ PDITL ได้เปรียบต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบทองแดงที่ต่ำ จึงทำให้คาดว่า จะสามารถลดต้นทุนได้ถึง 10-15% ยกระดับกำไรปี 2563 สู่ฐานใหม่จากการทำ M&A เวียดนาม

ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 2563 จะเติบโตมีนัยสำคัญถึง 532.5% yoy มาอยู่ที่ 784 ล้านบาท เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้างธุรกิจเหมือนปี 2562 อีกทั้งคาดว่า STARK จะเริ่มรับรู้รายได้ Thipha และ Dovina เข้ามา 7 เดือนปีนี้ รวมถึง PDITL มีแผนขยายกลุ่มลูกค้าเชิงรุกทั้งรัฐและเอกชน ควบคู่กับการลดต้นทุน

ขณะที่ปี 2564 คาดกาไรสุทธิโตต่อ 70%yoy มาอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท หนุนจากการรับรู้ 2 บริษัทใหม่เต็มที่ทั้งปี และการเพิ่มยอดขายสายไฟจากลูกค้าเดิมและใหม่ ซึ่งคาดจะทำให้รายได้หลักจากการขายไฟ เพิ่มขึ้นเกือบ 33%yoy และเสริมด้วยด้วยการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ซึ่งทำให้ GPM เพิ่มขึ้น ประเมิน FV ปี 64 เท่ากับ 2.52 บาท/หุ้น อิง PER 45 เท่า