PAP กำไรโต 13% สวนพิษ COVID-19 กระทบอุตฯ เหล็ก

HoonSmart.com>> “แปซิฟิกไพพ์” ฝ่าวิกฤตโควิด-19 กระทบอุตสาหกรรมเหล็ก เปิดงบไตรมาส 1/63 กำไรโตเกือบ 13% ราคาเหล็กโลกเริ่มฟื้น คุมบริหารจัดการต้นทุนได้ดี ประคองรายได้

บริษัท แปซิฟิกไพพ์ (PAP) ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2563 โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 1,952.40 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 490.68 ล้านบาท คิดเป็น 20.08% เป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า รวมถึงผลกระทบด้านราคาเหล็กโลกที่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับไตรมาส 1/2563 มีกำไรสุทธิ 44.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06 ล้านบาท หรือ 12.90% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคิดเป็น 9.30% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 7.53% ของรายได้รวม เป็นผลอันเนื่องมาจากทิศทางราคาเหล็กโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดในช่วงปลายปี 2562 และการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น

เอื้อมพร ปัญญาใส

นางเอื้อมพร ปัญญาใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ PAP กล่าวว่า ภาพรวมในไตรมาส 1/63 ถือว่า รายได้ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัส COVID-19 ในช่วงเดือนมี.ค. จนนำไปสู่มาตรการ Lockdown ส่งผลให้ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างต้องปิดทำการในหลายพื้นที่ ประกอบกับการขนส่งสินค้าทำได้ยากลำบาก และเกิดการขาดแคลนแรงงานในหลายโครงการก่อสร้าง แต่เนื่องจากบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การให้บริการเพื่อให้ตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างเท่าทัน ด้วยการวางแผนการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าสำหรับงานระบบ และงานโครงการการขนาดใหญ่ ตลอดจนกลยุทธ์ในการบริหารลูกค้าโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้รับเหมาขนาดใหญ่ และลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้ไตรมาส 1/2563 บริษัทยังสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นได้

สำหรับไตรมาส 2/2563 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจของ PAP รวมทั้งบริษัทได้เริ่มใช้การตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดและรองรับกับแนวโน้มพฤติกรรมตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนมีแผนในการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสนับสนุนคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เพื่อเตรียมการรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยแต่งตั้ง น.ส.ธิติมา วัฒนศักดากุล ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อรับผิดชอบในส่วนของกลยุทธ์การจัดซื้อวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเหล็ก พร้อมกับแต่งตั้ง นายฐิตกร อุษยาพร ผู้บริหารมากความสามารถแห่งวงการเทคโนโลยี เข้ามาเป็น ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ(Chief Operating Officer) ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.2563

ทั้งนี้ นายฐิตกร ถือเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์การทำงานในแวดวงเทคโนโลยีและสารสนเทศมานานกว่า 30 ปี ผ่านการร่วมงานกับหลากหลายบริษัทชั้นนำ อาทิ ออราเคิล (ประเทศไทย), ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย), ดีแทค และ เอ็ม พิคเจอร์ ในเครือเมเจอร์ เป็นต้น โดยล่าสุดก่อนมาร่วมงานกับ PAP นายฐิตกร ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVOA