SCCC กำไร 825 ลบ. ร่วงกว่า 25% ตลาดปูนซีเมนต์หดตัว

HoonSmart.com>> “ปูนซีเมนต์นครหลวง” ไตรมาส 1/63 กำไร 825 ล้านบาท ร่วงกว่า 25% ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ลด หยุดซ่อมบำรุงเตาเผาตามแผนในไทยและศรีลังกาดันต้นทุนผลิตสูงขึ้น ฉุดรายได้สุทธิลดลง 7.3% เหลือ 11,016 ล้านบาท ด้าน COVID-19 ต้องหยุดการผลิตเตาเผาปูนซีเมนต์ที่ 1 ในไทย

บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2563 มีกำไรสุทธิ 825.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.77 บาทลดลง 25.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,104.77 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.71 บาท

บริษัทฯ มีรายได้สุทธิ 11,016 ล้านบาท ลดลง 7.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้สุทธิธุรกิจปูนซีเมนต์มีจำนวน 6,699 ล้านบาท ลดลง 10.2% จากงวดปีก่อน รายได้สุทธิธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จและหินทรายมีจำนวน 1,905 ล้านบาท ลดลง 12.4% จากงวดปีก่อน ภาพรวมธุรกิจได้รับผลกระทบจากความต้องการปูนซีเมนต์ที่หดตัวลงเนื่องจากสภาวะการณ์ต่างๆ โดยประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้ง ความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐและกิจกรรมการก่อสร้างที่อยู่อาศัยยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว

ในขณะที่นโยบายในการระงับการออกใบอนุญาตก่อสร้างในนครโฮจิมินห์ของประเทศเวียดนามยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสนี้และการชะลอโครงการก่อสร้างของนักลงทุนต่างชาติในประเทศศรีลังกา ส่งผลต่อความต้องการปูนซีเมนต์

ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19เริ่มส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯ ในช่วงปลายเดือนมี.ค. การหยุดเตาเผาปูนซีเมนต์เพื่อซ่อมบำรุงตามแผนงานในประเทศไทยและประเทศศรีลังกา ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งนี้ ผลกระทบในเชิงบวกจากแนวโน้มราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลกและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ประกอบกับประสิทธิภาพในการดำเนินงานและเสถียรภาพในการดำเนินงานของโรงงานในต่างประเทศที่ดีขึ้น รวมถึงมาตรการในการลดค่าใช้จ่ายคงที่ในเชิงรุกช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าว

อย่างไรก็ดีความท้าทายทางเศรษฐกิจและผลกระทบต่อผลการดำเนินงานทางการเงินอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ ได้ประกาศหยุดสายการผลิตเตาเผาปูนซีเมนต์ที่ 1 ในประเทศไทยในเดือนเม.ย.2563