HoonSmart.com>>บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยรอกำไรบจ. สถานการณ์โควิด ความคืบหน้าการเปิดเศรษฐกิจของไทยและต่างชาติ กำหนดทิศทางหุ้นสัปดาห์ หน้า หลังจากดัชนีตีทะลุ 1,300 จุด แต่วอลุ่มหดตัว 12% แนวโน้มค่าเงินบาทธนาคารกสิกรไทยคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย คาดหุ้นสัปดาห์ถัดไป (4-8 พ.ค.) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีแนวรับที่ 1,285 และ 1,275 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,320 และ 1,355 จุด ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการไตรมาส 1/63 ของบจ. สถานการณ์โควิด-19 รวมถึงความคืบหน้าในการกลับมาเปิดเศรษฐกิจของทั้งในและต่างประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และดัชนี PMI Composite เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
สัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นกลับมายืนเหนือ 1,300 จุดอีกครั้ง โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,301.66 จุด เพิ่มขึ้น 3.41% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 59,605.08 ล้านบาท ลดลง 12.54% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 3.12% ปิดที่ 256.19 จุด
ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นตลอดสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนจากการทยอยกลับมาเปิดเศรษฐกิจบางส่วนของประเทศต่างๆ รวมถึงการเตรียมผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ โดยเบื้องต้นจะอนุญาตให้กิจการ/กิจกรรมใน 6 กลุ่มแรก (ตลาด, ร้านจำหน่ายอาหาร, กิจการค้าปลีก-ส่ง, กีฬา-สันทนาการ, ร้านตัดผม และอื่นๆ) กลับมาดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากรายงานข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าในการทดลองยา Remdesivir เพื่อรักษาโรคโควิด-19
แนวโน้มค่าเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (4-8 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหว ที่ 32.20-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนเม.ย. สถานการณ์ภายหลังการเปิดเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ
เงินบาทแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับทิศทางการเคลื่อนไหวของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียและตลาดสินทรัพย์เสี่ยงที่ได้รับแรงหนุนจากแผนการเตรียมกลับมาเปิดเศรษฐกิจ ความหวังต่อยารักษาโควิด-19 นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงขายให้อ่อนค่าลง หลังผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ย้ำสัญญาณพร้อมผ่อนคลายด้วยทุกเครื่องมือทางการเงินที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ในวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.37 เทียบกับระดับ 32.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (24 เม.ย.)
