‘ทรัมป์’ลงนามขึ้นภาษีเหล็กเป็น25% อลูมิเนียมเป็น 10% คนสหรัฐต้องซื้อสินค้าแพง ไทยโดนหางเลขทางอ้อม
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่งฯ อนุมัติการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม โดยเหล็กปรับขึ้น อัตราภาษีเป็น 25% จากเดิม 0-10% และอลูมิเนียมปรับขึ้น เป็น 10% จากเดิม 0-6.5% มีผลบังคับใช้ในอีก 15 วันจากนี้ แต่ได้ยกเว้นให้กับแคนาดาและเม็กซิโก เนื่องจากเป็นคู่ค้าสำคัญของสหรัฐ รวมถึงยังอยู่ในขั้นตอนเจรจาปรับปรุงสนธิสัญญา NAFTA อยู่ โดยแคนาดาและเม็กซิโกมีสัดส่วนการค้า (X+M) กับสหรัฐสูงถึง 64.64% และ 64.07% ตามลำดับ
“การขึ้นภาษีครั้งนี้ จะกระทบต่อคู่ค้าหลักของสหรัฐ โดยเหล็กน่าจะกระทบต่อบราซิล, เกาหลีใต้ และรัสเซีย เนื่องจากสหรัฐนำเข้าเหล็กจากประเทศเหล่านี้ประมาณ 13%, 10% และ 9% ตามลำดับ ขณะที่อลูมิเนียมน่าจะกระทบต่อ รัสเซีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และจีน เนื่องจากสหรัฐนำเข้าอลูมิเนียมจากประเทศเหล่านี้ 11%, 10% และ 10% ตามลำดับ แม้จะดีต่อผู้ผู้ผลิตในสหรัฐแต่กลับกระทบกับผู้บริโภคที่ต้องซื้อ สินค้าแพงขึ้น เช่นกัน ”
ขณะที่ไทยแม้จะมีสัดส่วนการส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปสหรัฐไม่มากนักเพียง 0.06% และ 0.1% ตามลำดับ แต่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทางอ้อม โดยเฉพาะเหล็กจากการที่เหล็กล้นตลาด เพราะผู้ผลิตเหล็กจะเน้นทำตลาดในสหรัฐน้อยลงและอาจหันมาทุ่มตลาดในเอเซียแทน ซึ่ง ในส่วนของประเทศไทยก็มีเครื่องมือที่อาจถูกหยิบมาใช้ป้องกับการทุ่มตลาดอย่างเช่นการกำหนด Save Guard และ AD (Anti Dumping)