HoonSmart.com>> โฮม โปรดักส์ฯ กำไรสุทธิไตรมาส 1/63 จำนวน 1,266 ล้านบาท ลดลง 10.80% จากงวดปีก่อน โควิด-19 แพร่ระบาดยกเลิกจัด HomePro Expo ปิดสาขาในไทยและมาเลเซียกระทบยอดขาย บล.เอเซีย พลัส คาดไตรมาส 2/63 กระทบหนัก คาดฉุดกำไรทั้งปีหดตัวเกือบ 14% ด้านราคาหุ้นเต็มมูลค่า แนะโยกซื้อ DOHOME-COM7
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 กำไรสุทธิ 1,266.52 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.10 บาท ลดลง 10.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,419.84 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท
ในงวดไตรมาส 1/2563 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 15,333.29 ล้านบาท ลดลง 1,219.72 ล้านบาท หรือ 7.37% แบ่งเป็นได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งเป็นรายได้จากการขายสินค้าและรายได้จากการให้บริการลูกค้ารวม Home Service รวมจำนวน 14,545.58 ล้านบาท ลดลง 951.31 ล้านบาท หรือ 6.14% เป็นผลมาจากการลดลงของยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจโฮมโปร เมกาโฮมและโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดสาขาในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.2563 และสาขาในประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.2563 จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่รายได้จากการให้บริการลูกค้า Home Service ยังเติบโต
รายได้ค่าเช่าจำนวน 382 ล้านบาท ลดลง 178.82 ล้านบาท หรือ 31.89% ผลจากการิปดสาขาและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ โดยบริษัทฯ ได้ลดค่าเช่าให้แก่ผู้เช่าและการยกเลิกจัดกิจกรรม HomePro Expo ในไตรมาส 1
ด้านกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า Home Service รวม 3,739.21 ล้านบาทลดลง 130.48 ล้านบาท หรือ 3.37% จากงวดปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 24.97% ในปีก่อนมาอยู่ที่ 25.71% โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และกลุ่มสินค้า Direct Sourcing การเพิ่มประสิทธิภาพวางแผนการจัดซื้อสินค้าของธุรกิจโฮมโปร เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย และการยกเลิกการจัดกิจกรรม HomePro Expo ในไตรมาสที่ 1 แม้ว่าบริษัทฯ มีต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้นก็ตาม
บริษัทฯ ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการกลางพิเศษเพื่อเฝ้าระวังและบริหารความเสี่ยงในช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 ซึ่งบริษัทฯ ได้ประเมินผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นตามความรุนแรงในระดับต่างๆ และดำเนินการมาตรการเพื่อรักษาขีดความสามารถในการทำกำไร เช่น ควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินการต่างๆ การบริหารคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนออกไป รวมถึงบริหารกระแสเงินสด เงินทุนหมุนเวียนและสภาพคล่องทางการเงินอย่างรัดกุม ส่งผลให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นยังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้และในงวดไตรมาส 1 บริษัทฯ ไม่ได้ขยายสาขาใหม่เพิ่ม
บริษัทฯ มีส่วนแบ่งของยอดขายสินค้าที่จัดหาจากต่างประเทศท้้งหมดประมาณ 10% โดยมีสัดส่วนที่มาจากประเทศจีนประมาณ 6-8% เท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ ได้สำรองสินค้าในส่วนนี้ก่อนหน้าช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนตามปกติ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการปิดทำการของคู่ค้า และปัจจุบันคู่ค้าบางส่วนได้กลับมาเริ่มดำเนินการผลิตตามปกติแล้ว ความเสี่ยงด้านความพร้อมของสินค้าจึงถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
ด้านสภาพคล่องบริษัทมีวงเงินสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง และมีวงเงินกู้ประเภทตั๋วแลกเงินระยะสั้น ซึ่งบริษัท ได้เบิกถอนเงินกู้ตามระยะเวลาใช้คืนภายใน 1, 2, 3, และ 6 เดือน หรือแล้วแต่ระยะเวลาที่ตกลงกัน เพื่อรักษาสภาพคล่องในระหว่างที่สาขาปิดดำเนินการบางส่วน บริษัทฯ ยืนยันว่าบริษัทฯ ยังสามารถรักษาความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยและปฏิบัติตามเงื่อนไขตามสัญญากู้ทุกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสามารถในการรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุน
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 198.56 ล้านบาท หรือ 6.83% จากปีก่อนเหลือ 2,709.73 ล้านบาทจากการยกเลิกจัด HomePro Expo
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส ระบุว่า HMPRO กำไรสุทธิไตรมาส 1/63 ลดลงตามคาดจากผลกระทบ COVID-19 ต่อกำลังซื้อและมาตรการปิดร้านค้าที่ต้องปิดราว 90 จาก 107 แห่ง ในไทย กดดัน SSSG หดตัวราว 6%-7% yoy ในไตรมาส 1/63 แต่ชดเชยบางส่วนจาก Gross margin ที่เพิ่มเป็น 25.7% จาก 25% ในไตรมาส 1/62 จากผลบวกสัดส่วนสินค้า Private Brand เพิ่มขึ้น + และไม่มีการจัด Homepro expo
ขณะที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/2563 คาดจะลดลง yoy ในอัตราสูงขึ้น จากผลกระทบปิดสาขาที่จะมีนัยฯมากขึ้น ประกอบกับ มาตรการปิดสาขาที่อาจขยายเวลาออกไปถึง 31 พ.ค.63 อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลงและมาตรการที่เข้มงวด ทำให้น่าจะยังคาดหวังการฟื้นตัวได้ในครึ่งหลังของปี 63 จึงยังคงคาดกำไรปี 63 หดตัว 13.80%
ราคาหุ้นปัจจุบันเต็มมูลค่าพื้นฐาน 12.70 บาท จึงยังแนะนำ Switch ไป DOHOME ราคาเหมาะสม 7.90 บาท และ COM7 ราคาเหมาะสม 23.50 บาท