HoonSmart.com>> บล.หยวนต้า คาด COVID-19 ฉุดกำไรกลุ่มโรงพยาบาลไตรมาส 1/63 กำไรปกติลด 13% จากไตรมาสก่อนหน้าและลดลง 26% จากงวดปีก่อน ยกเว้นกลุ่มรพ.ที่รับประกันสังคมคาดกำไรยังโต มองไตรมาส 2/63 แย่สุด ก่อนสัญญาณดีขึ้นครึ่งปีหลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มในอัตราลดลง หั่นกำไรทั้งปีลง 11% คงน้ำหนักลงทุน “เท่าตลาด” ชู BCH-VIBHA เด่น ผลประกอบการเติบโตดีกว่ากลุ่ม
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์กำไรงวดไตรมาส 1/2563 กลุ่มโรงพยาบาลภายใต้ Coverage จำนวน 7 บริษัท ได้แก่ BDMS, BCH, VIBHA, PR9, EKH,LPH และ TNH มีกำไรปกติในงวดไตรมาส 1/2563 ที่ 2,615 ล้านบาท -13% จากไตรมาส 4/2562 และ -26% จากไตรมาส 1/2562 ซึ่งหลักๆ มาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เริ่มรุนแรงใน เดือน มี.ค.
สำหรับโรงพยาบาลในกลุ่มที่มีรายได้จากประกันสังคม คาดกำไรปกติยังเติบโตเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน แม้คนไข้เงินสดจะลดลง แต่ได้ผลบวกจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมเมื่อตอนต้นปี ราว 5.6% เป็น 3,959 บาทต่อหัวได้แก่ VIBHA คาดกำไรปกติ 149 ล้านบาท +36% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานกำไรที่่ต่ำในปีก่อนจากการที่บริษัทลูก CMR ถูกเรียกคืนเงินประกันสังคม BCH คาดกำไรปกติ 261 ล้านบาท +5% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และ LPH คาดกำไรปกติ 38 ล้านบาท +7% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่โรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยเงินสด และมีสัดส่วนลูกค้าลูกค้าต่างชาติสูงจะถูกกระทบค่อนข้างรุนแรงจากการปิดประเทศ ทำให้ผู้ป่วยต่างชาติไม่สามารถเดินทางมารักษาได้ ได้แก่ BDMS คาดกำไรปกติ 2,024 ล้านบาท -31% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ด้วยบริษัทมีฐานลูกค้าต่างชาติสูง 30% PR9 คาดกำไรปกติ 69 ล้านบาท -20% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน นอกจากกระทบจากลูกค้าที่ลดลง ยังมีต้นทุนบุคลากรที่สูงขึ้นเพื่อรองรับอาคารใหม่
EKH ผลประกอบการลดลงหนักสุดในกลุ่ม มีกำไร 17 ล้านบาท -61% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติราว 12% ของรายได้ซึ่งส่วนใหญ่เป็ นลูกค้าจีน ที่เดินทางมารักษาที่ศูนย์ IVF หายไปเกือบหมดตั้งแต่ในเดือน ก.พ.หลังจากที่จีนปิดประเทศ
บล.หยวนต้า คาดไตรมาส 2/2563 ผลประกอบการกลุ่มโรงพยาบาดจะชะลอตัวเมื่อเทียบไตรมาส 4/2562 และไตรมาส 2/2562 ซึ่งในเดือน เม.ย. รับผลกระทบมากขึ้นจากคนไข้ที่มาใช้บริการลดลง ทั้งจากลูกค้าต่างชาติที่หายไปเกือบหมด และลูกค้าชาวไทยที่ไม่กล้าเดินทางมารักษาเนื่องจากกลัวจะติดเชื้อจากโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามคาดว่าสถานการณ์
ครึ่งปี หลังสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งจากตัวเลขล่าสุดเมื่อวันที่ 21 เม.ย พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มเพิ่มในอัตราที่ลดลงจากหลักร้อยในเดือน มี.ค. – ต้น เม.ย เหลือเพียง 19 ราย ขณะที่คนที่เป็นแล้วหายสูงถึง 70% ซึ่งหากรัฐบาลมีการผ่อนปรนมาตรการ lockdown จะทำให้จำนวนผู้มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นในครึ่งปีหลัง
สำหรับภาพรวมปี 2563 คาดหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล 7 บริษัทที่วิเคราะห์ กำไรรวม 11,284 ล้านบาท -11% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดกลุ่มโรงพยาบาลที่รับลูกค้าประกันสังคมเป็ นหลัก เช่น BCH, VIBHA ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลบวกจากการที่ประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว มาชดเชยรายได้จากผู้ป่วยเงินสดที่ลดลง
ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ที่ตลาดมีความกังวลว่าประกันสังคมจะต้องนำเงินไปช่วยเหลือค่ารักษาผู้ป่วย COVID-19 แล้วจะมีปัญหาด้านงบประมาณ ที่จะจ่ายให้กับโรงพยาบาลที่รับประกันสังคม จากการสอบถามไปยังโรงพยาบาลที่รับประกันสังคม ให้ความเห็นว่า งบดังกล่าวเป็นงบประมาณต่างหากที่แยกกัน จึงไม่น่ามีผลกระทบ
บล.หยวนต้า คงน้ำหนักการลงทุน “เท่าตลาด” โดยมองว่าผลประกอบการที่แย่ในครึ่งปี แรกตลาดรับรู้ไปแล้ว และคาดหวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะบรรเทาลงในครึ่งปีหลัง แนะนำลงทุนในเชิง selective เลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีลูกค้าประกันสังคมเป็นหลัก ผลประกอบการมีโอกาสทำได้ดีกว่ากลุ่มฯ ด้วยแรงหนุนจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม แนะนำ “ซื้อ” BCH ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท และ VIBHA เป้าหมาย 2.25 บาท
นอกจากนี้ปรับคำแนะนำ BDMS จาก “เก็งกำไร” เป็น “ขาย” ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E สูง 39 เท่าสูงสุดในกลุ่มรพ.อยู่ที่ 30 เท่าและเต็มมูลค่าราคาพื้นฐานของฝ่ายวิเคราะห์ที่ 20.50 บาท พร้อมทั้งปรับคำแนะนำ EKH จาก “เก็งกำไร” เป็น “ขาย” เชานกัน ราคาตามพื้นฐาน 4.90 บาท มองเป็นจังหวะขาย และแนะนำเพียง “เก็งกำไร” หุ้น PR9 คงราคาพื้นฐาน 6.90 บาท มองว่าปีนี้เป็นปีที่แย่ของบริษัท ซึ่งตลาดรับรู้แล้ว คาดจำนวนผู้ป่วยจะกลับมาใช้บริการมากขึ้นในครึ่งปีหลังและงวดปี 2564 คาดกำไรจะกลับมาเติบโตประมาณ 10%