ดีบีเอสแนะ “ถือ” IVL ลดเป้าเหลือ 24 บาท Q1กำไรปกติดี-ขาดทุนสต็อก

HoonSmart.com>> บล.ดีบีเอสฯคุยผู้บริหาร อินโดรามาฯ ได้รับผลบวก-ลบจากโควิด ไตรมาส 1/63 ผลิตภัณฑ์ PET โตทั้งยอดขาย-มาร์จิ้น หนุนกำไรปกติ 2,600 ล้านบาท ฟื้นจากปลายปี แต่ขาดทุนสต็อก  2,500 ล้านบาท  สรุปขาดทุนสุทธิ  274 ล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 2 ดีขึ้น มีสภาพคล่อง 2,000 ล้านดอลลาร์เพียงพอจ่ายหนี้ปี 63-64 

บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงการ Conference Call กับผู้บริหารบริษัท  อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ว่า บริษัทได้รับทั้งผลบวกและผลลบจากโควิด-19 ในครึ่งปีแรก ซึ่งประเทศต่างๆทั่วโลกมีการล็อกดาวน์ และใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นบวกต่ออุปสงค์ PET ขณะเดียวกันต้นทุนวัตถุดิบในการผลิต PET คือ PX และ PTA ก็ลดลงด้วย ดังนั้นผลิตภัณฑ์ PET ได้รับผลดีทั้งอุปสงค์และมาร์จิ้นเพิ่ม นอกจากนั้นยอดขายผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ประเภท Hygiene ก็เพิ่มขึ้นด้วย แต่ธุรกิจไฟเบอร์ที่ใช้ในรถยนต์และสินค้าคงทนชะลอลง

บริษัทมีสภาพคล่องราว 2,000 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นเงินสด&สินทรัพย์ใกล้เคียงเงินสด 5 แสนล้านดอลลาร์ และวงเงินเครดิตไลน์กับสถาบันการเงินอีก 1,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพียงพอที่จะใช้ชำระคืนหนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดในปี 2563 และปี 2564 ที่ 260 ล้านดอลลาร์ และ 800 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ นอกจากนั้นยังมีการออกตราสารหนี้และทำสวอป รวมถึงปรับแผนลงทุนเพื่อลดภาระด้วย

บริษัทคาดมาร์จิ้น PTA/PET จะอยู่ที่ 240-245 ดอลลาร์/ตันในครึ่งปีหลัง ขณะที่ระดับคุ้มทุนอยู่ที่ 190-200 ดอลลาร์/ตัน

ทางบล.ดีบีเอส คาดไตรมาส 1/2563 บริษัทจะขาดทุนสุทธิ 274 ล้านบาท โดยหลักเกิดจากขาดทุนสต็อก 2,500 ล้านบาท แต่ถ้าไม่รวมรายการนี้พบว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 2,600 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาส 4/2562 ที่ธุรกิจหลักขาดทุน 584 ล้านบาท แต่ลดลงจาก 4,000 ล้านบาทใน 1/2562

การดำเนินงานที่ฟื้นตัวจากไตรมาส 4 ที่ผ่านมา มาจาก EBITDA/ตันเพิ่ม +17% เป็น 82 ดอลลาร์/ตัน แต่ -20%เทียบกับไตรมาส 1/2562 ด้านปริมาณขายเพิ่ม 17%จากไตรมาสก่อน เพราะซื้อกิจการ และอุปสงค์ PET สูงขึ้นโดยเฉพาะในลูกค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่มจากการซื้อสินค้ากักตุนกันมากช่วงโควิด

แนวโน้มไตรมาส 2/2563 มีแรงหนุนจากอุปสงค์ PET ที่สูงและผลดีจากการซื้อกิจการ Huntsman รับรู้ผลตอบแทนจากการลงทุนเต็มไตรมาส ขณะที่ไตรมาส 1/2563 มีปิดซ่อมบำรุง สำหรับครึ่งปีหลัง ยังไม่แน่นอน เพราะมีกำลังการผลิต PTA/PET เข้ามาเพิ่ม ขณะที่อุปสงค์อาจจะยังไม่แข็งแกร่งนัก ทำให้ EBITDA/ตัน อาจลดลงได้ ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์คิดเป็น 60% ของ EBITDA รวมทั้งหมด

” แนะนำ ถือ ให้ราคาพื้นฐาน 24 บาท (เดิม 29 บาท) อิงกับ P/E ปี 63F ที่ 16 เท่า  ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี”บล.ดีบีเอสฯระบุ

ล่าสุดการซื้อขายครึ่งวันที่ 22 เม.ย. 2563 ราคาปิดที่ 27 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน