บลจ.กสิกรฯ เสิร์ฟเทอมฟันด์ 3 เดือน ชี้นักลงทุนกลับมาเชื่อมั่นตราสารหนี้

HoonSmart.com>> บลจ.กสิกรไทย เผยผู้ลงทุนกลับมาเชื่อมั่นตราสารหนี้อีกครั้ง หลังสัปดาห์ก่อนส่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือนลงตลาด ยอดขายทะลักกว่า 4,500 ล้านบาท ส่งเทอมฟันด์ 3 เดือน ขาย 21-27 เม.ย.นี้ ล็อกผลตอบแทน 1.10% ต่อปี

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บลจ.กสิกรไทย เปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3MB ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KFF3MB-AI) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน โดยสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 4,500 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 17 เม.ย. 63) ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้ลงทุนเริ่มกลับมาให้ความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี

บลจ.กสิกรไทย จึงได้ส่งกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน CF (KFF3MCF) สำหรับให้ผู้ลงทุนทั่วไปได้เข้ามาลงทุน โดยประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 1.10% ต่อปี เปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 21-27 เม.ย.2563

นายนาวิน กล่าวต่อไปว่า กองทุน KFF3MCF มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ และหุ้นกู้ โดยกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนจะเข้าลงทุนในเงินฝาก China Construction Bank Corporation (ฮ่องกง), เงินฝาก Agricultural Bank of China, เงินฝาก Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน) รวมถึงเงินฝาก Commercial Bank of Qatar เงินฝาก Qatar National Bank, เงินฝาก Doha Bank (ประเทศกาตาร์) อีกทั้งเงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank (ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) และเงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia (ประเทศอินโดนีเซีย) นอกจากนี้ยังมีตราสารหนี้ Malayan Banking Berhad (ประเทศมาเลเซีย) และหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด, หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (ประเทศไทย)

“กองทุน Term Fund ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.กสิกรไทย จะเน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) อีกทั้งยังมีสภาพคล่องสูง ซึ่งที่ผ่านมากองทุนไม่เคยมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ (Default) ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงวางใจได้ว่าเงินลงทุนจะได้รับการบริหารจัดการอย่างดีจากผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญ ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ” นายนาวินกล่าว

นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ผู้ลงทุนกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวมากกว่าที่คาดไว้ จึงเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตรมากขึ้น ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลงแรง ในขณะที่ตราสารหนี้เอเชียมีแนวโน้มได้ประโยชน์จากการที่ธนาคารกลางทั่วเอเชียอาจปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินตามธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอัตรา 0.5% เพื่อพยุงเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศ โดยนักลงทุนยังคงมุ่งหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (Search for Yield) เน้นการลงทุนในประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างเอเชีย อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อในเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในระดับทรงตัวและจัดการได้ แต่ผู้ลงทุนยังคงต้องติดตามความผันผวนของค่าเงินเอเชียเทียบดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ เมื่อกองทุน KFF3MCF ครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำด้วยเงินเพียง 500 บาท ซื้อง่ายผ่าน App K PLUS และ K-My Funds