HoonSmart.com>> “ซีเค พาวเวอร์” เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นไม่มีกำหนด รอ COVID-19 คลี่คลาย พร้อมจ่ายปันผลผู้ถือหุ้น 12 พ.ค.นี้ อัตรา 0.0300 บาท/หุ้น ขึ้น XD 24 เม.ย. ย้ำยังเข้มทุกโรงไฟฟ้า และสำนักงาน ป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ขั้นสูงสุด
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขและมีการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขยายในวงกว้าง ภาครัฐ จึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ในราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2563 ถึงวันที่ 30 เม.ย.2563 โดยสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคต่างๆ อาทิ การปิดสถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน นั้น เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขและภาครัฐ ที่ประชุมคณะกรรมการ CKP เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2563 จึงมีมติให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 ซึ่งกำหนดไว้เดิมในวันที่ 28 เม.ย.2563 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิด รวมถึงพิจารณาทางเลือกการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นด้วยวิธีการอื่นใดที่กฎหมายกำหนดให้สามารถทำได้ เพื่อจัดให้มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานปี 2562 ตามงบการเงินล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2562 ที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีของบริษัทแล้ว ในอัตราหุ้นละ 0.0300 บาท และกำหนดให้วันที่ 27 เม.ย.2563 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าว โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 พ.ค.2563
“บริษัท และบริษัทในเครือพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนประกาศของกระทรวงสาธารณสุขและคำสั่งต่างๆ ของภาครัฐ รวมถึงของรัฐบาล สปป.ลาว เพื่อให้การยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ ตามที่บริษัทมีมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ณ โรงไฟฟ้าและสำนักงานของบริษัทและบริษัทในเครือทุกแห่ง ทั้งในประเทศไทยและสปป.ลาว ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมานั้น จนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่พบรายงานผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด และบริษัทไม่นิ่งนอนใจ ยังคงมีมาตรการเข้มงวดสูงสุดในการป้องกันการแพร่ระบาดเช่นเดิม”นายธนวัฒน์ กล่าว
นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 โรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น โครงการที่ 1 (BIC-1) และโครงการที่ 2 (BIC-2) รวมถึง โรงไฟฟ้าบางเขนชัยโซลาร์ ยังคงผลิตไฟฟ้าและส่งให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EdL) เต็มกำลังการผลิต เพื่อให้ประชาชนได้มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอในช่วงฤดูร้อนนี้