“เสียวหมี่” โชว์รายได้ปี 62 ทะลุ 2 แสนล้านหยวนหนุนกำไรสูงเกินคาด

HoonSmart.com>> “เสียวหมี่” โชว์รายได้ปี 62 ทะลุ 2 แสนล้านหยวน เติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจแม้ต้องเผชิญอุปสรรค กำไรสุทธิกว่า 11.5 พันล้านหยวน สูงกว่าประมาณการส่วนใหญ่ ตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำในตลาด “Smart Living” ด้วยความสำเร็จของกลยุทธ์ “Dual-Engine “สมาร์ทโฟน + AIoT”

เสียวหมี่ คอร์ปอเรชัน บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่ก้าวเป็นผู้นำด้านสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อบนแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เปิดเผยผลการดำเนินงานรวมของปี 2562 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ มีรายรับรวมของกลุ่มบริษัทพุ่งสูงกว่า 2 แสนล้านหยวนเป็นครั้งแรก โดยแตะระดับ 205,840 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 17.7% เมื่อเทียบปีต่อปี สูงกว่าประมาณการส่วนใหญ่ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) 9 ปีอยู่ที่ 112% และมีกำไรสุทธิหลังการปรับปรุง 11.5 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 34.8% เมื่อเทียบปีต่อปี

ในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 รายได้รวมของเสียวหมี่ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปี 27.1% เป็น 56.5 พันล้านหยวน สูงเป็นประวัติการณ์และเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี กำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 7.84 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 38.5% เมื่อเทียบปีต่อปีและกำไรสุทธิที่ยังไม่ได้ปรับปรุงตาม IFRS อยู่ที่ 2.34 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 26.5% เมื่อเทียบปีต่อปี

นายเหลย จุน ผู้ก่อตั้ง ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร เสียวหมี่ กล่าวว่า แม้จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แต่เสียวหมี่ก็ยังมีผลประกอบการอันโดดเด่นในปี 2562 ด้วยรายรับที่พุ่งสูงกว่า 2 แสนล้านหยวนเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ เรายังเฉลิมฉลองหลากหลายความสำเร็จในรอบปี นับตั้งแต่ การเปิดตัวกลยุทธ์ Dual-Brand ที่ทำให้เสียวหมี่และ Redmi ดำเนินงานแยกกันอย่างอิสระ การตอกย้ำ ‘5G + AIoT’ เป็นแผนกลยุทธ์ของเรา ไปจนถึงการติดอันดับ Fortune Global 500 และ BrandZ’s Top 100 แบรนด์ที่มีค่ามากที่สุดในโลก

“ในขณะที่ทั้งโลกยังคงตกอยู่ภายใต้เงื้อมเงาของโควิด-19 เรายังคงมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพเพื่อให้ก้าวผ่านเหตุการณ์อันไม่คาดคิดทางเศรษฐกิจนี้ไปพร้อมกับทุกๆ ท่าน ที่เสียวหมี่เราเชื่อมั่นว่าความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาวของเราเป็นผลมาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ด้วยเหตุนี้เราจึงวางแผนที่จะลงทุน 5 หมื่นล้านหยวนในห้าปีข้างหน้า เพื่อพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีและประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อขยายฐานแฟนคลับ (Mi Fan) โดยรวมแล้ว เรายังคงมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อ และปรับปรุงคุณภาพชีวิตในทุกๆ ที่ในอนาคต”นายเหลย กล่าว

สำหรับผลกระทบจากการระบาดของ โควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 โรคโควิด-19 แพร่กระจายไปทั่วโลก เสียวหมี่ประสบปัญหาจากการหยุดชะงักชั่วคราวในการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2563 แต่หลังจากนั้น กำลังการผลิตเริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็น 80% – 90% ของระดับปกติ

สำหรับตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักที่สุด ยอดขายออฟไลน์ของเสียวหมี่ได้รับผลกระทบเนื่องจาก Mi store ส่วนใหญ่ปิดหรือเปิดดำเนินการในระยะเวลาที่จำกัด และจำนวนลูกค้าก็ลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม จากข้อได้เปรียบในช่องทางออนไลน์ทำให้เสียวหมี่ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย

สำหรับตลาดต่างประเทศ ด้วยความแข็งแกร่งในระดับโลกและการขยายสู่ตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง เสียวหมี่ยังคงมีความหวังในศักยภาพในระยะยาวของตลาดต่างประเทศ ที่สำคัญ ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของเสียวหมี่ เช่น วิดีโอและเกมออนไลน์ มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง เนื่องจากประชาชนจำนวนมากต้องอยู่กับบ้านในช่วงการระบาดของโควิด-19