HoonSmart.com>> “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” เผยนักลงทุนซื้อหุ้นกู้ 2 รุ่น ผลตอบแทน 4.00-4.50% ต่อปี วงเงินกว่า 1,169.9 ล้านบาท ท่ามกลางสภาวะการณ์ตลาดตราสารหนี้ได้รับผลกระทบรุนแรงจาก COVID-19 สะท้อนความเชื่อมั่น ยันเตรียมความพร้อมรองรับการชำระหนี้ ขยายธุรกิจ ย้ำรักษาวินัยทางการเงินต่อเนื่อง
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เปิดเผยว่า ผลการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2563 จำนวน 2 รุ่น อายุ 2 ปี 6 เดือน ผลตอบแทน 4.00% ต่อปี และอายุ 3 ปี 6 เดือน ผลตอบแทน 4.50% ต่อปี ในระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-1 เม.ย.2563 มูลค่ารวม 1,169.9 ล้านบาท โดยอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ที่ระดับ BBB จากทริส เรทติ้ง ภายใต้สถานการณ์ที่ตลาดตราสารหนี้ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ระบุเตรียมความพร้อมเพียงพอรองรับการชำระหนี้และขยายธุรกิจ เนื่องจากมีการรักษาวินัยทางการเงินที่ดีอย่างต่อเนื่อง
“บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ยังคงมีความเชื่อมั่นในผลประกอบการ วินัยทางการเงิน และอุดมการณ์ในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนของบริษัทในการเป็นผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียมติดกับแนวรถไฟฟ้า สำหรับการสนับสนุนในการจองซื้อหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในครั้งนี้แม้ตราสารหนี้ได้รับผลกระทบรุนแรงจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19″ดร.ชัยยุทธ กล่าว
อย่างไรก็ตามบริษัทได้เตรียมสำรองเงินสดและสภาพคล่องเพื่อรองรับการชำระหนี้และขยายธุรกิจไว้ก่อนหน้าแล้ว โดย ณ 31 ธ.ค.2562 บริษัทฯ มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นที่รวมโครงการร่วมทุนรวมกันถึง 14,800 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทฯ มีการรักษาวินัยทางการเงินที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจที่จะไม่เลื่อนกำหนดเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ลงทุนที่ติดตามลงทุนในหุ้นกู้ของอนันดาตลอดมา
“ปีนี้นับว่าเป็นปีแห่งความท้าทาย เพราะเศรษฐกิจเผชิญกับการชะลอตัวทั่วโลกและความผันผวนจากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ซึ่งบริษัทฯ ยังคงมั่นใจว่า การลงทุนในหุ้นกู้ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนท่ามกลางความผันผวน โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่มีระยะเวลาลงทุนที่แน่นอน และมีกำหนดจ่ายผลตอบแทนสม่ำเสมอในระดับที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ ซึ่งหุ้นกู้ฯ ของ บมจ.อนันดาฯ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนในช่วงเวลานี้ได้อย่างเหมาะสม เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทฯยังคงรักษาวินัยทางการเงินอย่างเข้มงวด โดยสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ในที่ระดับต่ำได้ต่อไป”ดร.ชัยยุทธ กล่าว