STI จ่ายปันผล 0.25 บาท ตุน Backlog กว่า 2 พันลบ.

HoonSmart.com>>สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์  ลุยธุรกิจที่ปรึกษาบริหารงานก่อสร้าง โควิด-19 ไม่กระทบธุรกิจ ชูงานในมือปัจจุบันอยู่ที่ 2 พันล้านบาท  ปัจจัยหนุนหลังประกาศเข้าซื้อหุ้นเกือบ 64% ในบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ บริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมชั้นนำ คาดดีลแล้วเสร็จ Q2 ปีนี้ ขึ้นแท่นกลุ่มผู้นำในธุรกิจ ดันเป้าโตกระโด

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI ) หรือ ผู้นำกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจปี 2563 ยังคงเดินหน้าตามแผน จากปัจจุบันมีงานในมือที่แข็งแกร่ง (Backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 35-40% ของมูลค่างานในมือ และแบ่งเป็นภาคเอกชน 76% งานภาครัฐ 24% ซึ่งเป็นการบริหารงานโครงการขนาดใหญ่หลากหลายประเภท ทั้งโครงการ One Bangkok โครงการ The PARQ โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โครงการพัฒนาพื้นที่หมอน 33 หรือบล็อก 33 โครงการศูนย์กระจายสินค้า ของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ และโครงการควบคุมการก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C เป็นต้น

ทั้งนี้ STI ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2563 จะเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2562 สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น มีรายได้จากการให้บริการ 712.3 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 85.5 ล้านบาท สาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการ การเพิ่มขึ้นของปริมาณงาน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงที่ 33.7% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.8%

อย่างไรก็ดี เป้าหมายดังกล่าวยังไม่นับรวมการรับรู้รายได้ของบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ STI ได้ประกาศเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และ คาดการณ์ว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปีนี้ เข้ามาสนับสนุนงบการเงินรวมให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มงานภาครัฐได้อย่างแข็งแกร่ง

โดย บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เวนเจอร์ หรือ STV ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงนามซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ หรือ AEC บริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมชั้นนำ 1 ใน 4 ของไทย  เพิ่มโอกาสขยายธุรกิจออกไปในงานโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ซึ่งเอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่งฯ มีงานในมืออยู่แล้วค่อนข้างมาก และมีความเชี่ยวชาญสูง

“สำหรับ สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 มองว่า ส่งผลกระทบไม่มากนักต่อกลุ่มบริษัท เนื่องจากงานในมือของ STI เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องเดินหน้าตามแผน และได้เตรียมกลยุทธ์รองรับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ทำให้ทิศทางไตรมาส 1/2563 ยังเป็นไปตามที่ประเมินไว้ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าปีนี้จะมีเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐจำนวนมากตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ  อีกทั้ง ปัจจัยบวกจากการเข้าลงทุนในบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่งฯ จะช่วยสนับสนุนความมั่นคงของรายได้ให้สโตนเฮ้นจ์ กรุ๊ป เติบโตในปี 2563 ได้อย่างมีนัยสำคัญ ย้ำการเป็นกลุ่มผู้นำในธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและคุมงานก่อสร้างที่โดดเด่น” นายสมเกียรติ กล่าว

อย่างไรก็ดี เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากกำไรสุทธิงวดปี 2562 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 7 พฤษภาคม 2563 และวันที่จ่ายปันผล 27 พฤษภาคม 2563 ทั้งนี้ สิทธิในการรับเงินปันผลอยู่ในระหว่างการนำเสนอขออนุมัติจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2563