HoonSmart.com>>ดีบีเอสฯให้น้ำหนักหุ้นโรงพยาบาลมากกว่าตลาด ยก BDMS เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มขนาดใหญ่ ราคาลงมากน่าสะสมลงทุน ส่วน CHG เป็นผู้นำขนาดกลางและเล็ก แนวโน้มกำไรต่อหุ้นโตแข็งแกร่ง PEG ต่ำ
นางอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดีบีเอสฯได้ให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมากกว่าตลาด จากการวิเคราะห์หุ้นจำนวน 6 บริษัท แนะนำให้ซื้อสะสมลงทุนหุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) เนื่องจากราคาถอยลงมามาก กำไรเติบโตกว่า บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ส่วนโรงพยาบาลขนาดกลางและเล็กแนะนำหุ้น CHG หรือ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ โดดเด่นที่มีกำไรต่อหุ้นเติบโต
ที่ผ่านมา ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ลดลงประมาณ 5-30% ตามภาวะตลาด CHG ปรับตัวลงประมาณ 5-6% เพราะแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่ง ส่วนราคาหุ้นบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ลงแรงประมาณ 30%
ในปี 2563 โรงพยาบาลขนาดกลางและเล็กจะเติบโตได้ดีกว่าขนาดใหญ่ เพราะสำนักงานประกันสังคมให้เงินชดเชยเพิ่มขึ้น 7.3% เทียบกับปีก่อน จำนวนคนไข้ประกันสังคมเพิ่มขึ้น และสัดส่วนคนไข้ต่างชาติต่ำ ลดผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล มีรายได้จากคนไข้ประกันสังคม 35% ของรายได้รวม CHG มีสัดส่วน 30% บริษัท โรงพยาบาลราชธานี (RJH ) 41% ส่วน BDMS มีเพียง 2% จากโรงพยาบาลในเครือ และบริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ (RPH) ไม่มีรายได้จากคนไข้ประกันสังคม
ส่วนแนวโน้มกำไรต่อหุ้นในปี 2562-2565 คาดว่า CHG เติบโตเฉลี่ย 14%ต่อปี และยังมี PEG ต่ำที่สุดเพียง 2.2 เท่า ส่วนกำไรของ RPH โต 14% แต่มาจากฐานต่ำ สำหรับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ BH จะโตน้อยสุด 2% เนื่องจากมีรายได้จากคนไข้ต่างประเทศมากได้รับผลกระทบจากโควิด ส่วน BDMS กำไรจะโต 9% ดีกว่า และ PEG ต่ำ 3.3 เท่า เทียบกับ 13.5 เท่าของ BH