HoonSmart.com>>กกพ. ตรึงเอฟที งวด พ.ค. – ส.ค. 2563 ช่วยภาคธุรกิจ และค่าครองชีพ ฝ่าวิกฤตโควิด-19
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้คงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือนพ.ค. – ส.ค. 2563 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย ต่ออีก 4 เดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป้าหมายเพื่อช่วยค่าครองชีพประชาชน จากผลกระทบโควิด-19 คาดใช้เงินประมาณ 5,120 ล้านบาท เพื่อตรึงค่าเอฟที เงินดังกล่าว มาจากการกำกับฐานะการเงินของการไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ กกพ. กำหนด
นายคมกฤช กล่าวว่า ระยะ 4 เดือน ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การผลิตไฟฟ้า ยังใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ที่่ราคาปรับตัวลงตามราคาน้ำมันโลก แต่การประมาณค่าเอฟที ต้องนำภาระค่าใช้จ่ายจากส่วนต่างค่าเอฟที ประมาณการ กับค่าเอฟที ที่เกิดขึ้นจริงมาพิจารณาเพิ่มเติมด้วย ซึ่งครั้งนี้ ภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมาจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ที่มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากประมาณการไว้
สำหรับปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟที ในงวด พ.ค. – ส.ค. 2563 ในรายละเอียด ประกอบด้วย
1. ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 2563 เท่ากับ 69,920 ล้านหน่วย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือน ม.ค. – เม.ย. 2563 ที่คาดว่าจะมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเท่ากับ 65,724 ล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.38 ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน
2. สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 2563 ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ร้อยละ 58.34 ถ่านหิน ร้อยละ 16.32 และการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ร้อยละ 16.20
3. แนวโน้มราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า คาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติเท่ากับ 263.19 บาทต่อล้านบีทียู ปรับตัวลดลงจากงวดที่ผ่านมา 3.50 บาทต่อล้านบีทียู ราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าเอกชน
อยู่ที่ 2,488.19 บาทต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา 16.59 บาทต่อตัน
4. อัตราแลกเปลี่ยน เท่ากับ 31.70 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่ากว่าช่วงที่ประมาณการในงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2563 ซึ่งใช้อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือนกันยายน 2562 ที่ 30.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ กกพ. เตรียมวางหลักเกณฑ์ ให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ทยอยคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้า 21.5 ล้านคน ตั้งแต่ มี.ค. 63 นี้ เน้นให้สิทธิผู้ที่มีคุณสมบัติพร้อมรับเงินทันที ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 30,000 ล้านบาท