HoonSmart.com>>เจดับเบิ้ลยูดีฯ ยันเป้าหมายโตกว่าปีก่อน จากช่องทางรายได้หลากหลาย ปีนี้เริ่มเก็บเงินบริการท่าเรือชายฝั่ง ขนส่งสินค้าทางรถไฟดีขึ้น เล็งขายกิจการอาหารในไต้หวัน หาโอกาสซื้อกิจการ 2 แห่งในไทย มาตรฐานบัญชีใหม่กระทบเล็กน้อย แผน 5 ปี ขายทรัพย์สินเข้ากอง REIT เพิ่ม
นาย ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังไม่ปรับลดเป้ารายได้ปี 2563 จากที่ตั้งไว้ก่อนเกิดไวรัสโควิด-19 โดยคาดว่าจะโตมากกว่า 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 3,774.96 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้หลากลาย ธุรกิจการให้บริการท่าเรือชายฝั่งจะเข้ามาในปีนี้ และรายได้จากการขนส่งสินค้าทางรถไฟคาดว่าจะดีขึ้น จากปีที่แล้วไม่ค่อยดี
ส่วนราคาน้ำมันถูกลงหรือแพงขึ้นบริษัทไม่ได้ผลประโยชน์จเพราะเก็บค่าให้บริการแปรผันตามราคาน้ำมันที่เปลี่ยนไป
“ไตรมาส 1 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีการใช้พื้นที่คลังสินค้ามากกว่า 80% และพบว่ามีลูกค้าบางส่วนใช้บริการเช่าพื้นที่เก็บสินค้าเป็นระยะเวลานานขึ้น แต่หากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่จบเราก็ต้องมาพิจารณาถึงแผนการดำเนินงานใหม่อีกครั้ง”นายชวนินทร์ กล่าว
นายชวนินทร์ กล่าวว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาขายบริษัท Chi Shan Long Feng Food., LTD. ที่ประกอบธุรกิจอาหารในประเทศไต้หวัน มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ 60% ซึ่งบริษัทใช้เงินลงทุนไปทั้งหมด 220 ล้านบาท วางแผนที่จะมาขยายตลาดใน AEC แต่ได้ยกเลิกแล้ว เพราะไม่ตรงกับแผนของบริษัทที่จะเน้นการขยายธุรกิจโลจิสติกส์ ใน AEC เป็นหลัก นอกจากนี้มีแผนซื้อกิจการ 2 แห่ง เกี่ยวกับโลจิสติกส์ ยานยนต์ ขนส่งสินค้าข้ามแดน และขนส่งสินค้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท
ส่วนมาตรฐานบัญชีใหม่ ( IFRS9) กระทบต่อบริษัทในสัญญาเช่าที่มีระยะเวลาเกิน 1 ปี ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E)สูงขึ้นเป็น 1.8 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.3 เท่า แต่ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดที่รับได้ไม่เกิน 2.5 เท่า
นายชวนินทร์ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในช่วง 3-5 ปี (2563-2567) ว่า บริษัทเตรียมขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT เพิ่มเติม ปัจจุบันมีพื้นที่บริหารจัดการอยู่กว่า 1 ล้านตารางเมตร มีศักยภาพในการขายมูลค่าราว 1,500-3,000 ล้านบาท จะเริ่มขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์อีกครั้งในปี 2564 มูลค่าราว 1,500 ล้านบาท