SET เผยผลสำรวจบิ๊กบจ. 68% ธุรกิจถูกกระทบโควิด-19 ยังเดินหน้าลงทุน

HoonSmart.com>> ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแบบสอบถามผู้บริหารบจ. 68% ถูกระทบจากไวรัส COVID-19 “หมวดพัฒนาอสังหาฯ-สินค้าอุตสาหกรรม” หนักสุด พบ 61% ยันไม่กระทบการลงทุน มีเพียง 32% ชะลอลงทุนไปก่อน ชี้หากรัฐยกระดับระยะที่ 3 ถูกกระทบเพิ่มขึ้น เตรียมแผนรองรับ พร้อมคาดการณ์กรณี WHO ประกาศคุมสถานการณ์ได้ธุรกิจจะฟื้นตัวภายใน 1 ไตรมาส

น.ส. สุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยได้จัดทำ SET CEO Survey ฉบับพิเศษ เพื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เกี่ยวกับผลกระทบและแนวทางการรับมือสถานการณ์ COVID-19 โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 7 มี.ค.2563 ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนร่วมตอบแบบสอบถาม 80 บริษัท จาก 21 หมวดธุรกิจ จากทั้งหมด 29 หมวดธุรกิจ โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด คิดเป็น 22% ของทั้งตลาด โดยพบว่า บริษัทจดทะเบียน 54 บริษัทจากทั้งหมด 80 บริษัท หรือ 68% ของบริษัทจดทะเบียนที่ตอบแบบสอบถามได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ COVID-19 โดยเฉพาะในหมวดธุรกิจที่มี Supply Chain ที่เกี่ยวข้องกับจีน อาทิ หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หมวดสินค้าอุตสาหกรรม เป็นต้น


สถานการณ์ COVID-19 ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อบริษัทจดทะเบียน ในด้านต่างๆ ได้แก่

o ผลประกอบการ ยอดขายหรือจำนวนลูกค้าลดลง รายได้ลดลงจากการปรับลดค่าบริการให้กับลูกค้า (อาทิ ค่าเช่าพื้นที่) ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการบริหารงานด้านอนามัย การบริหารลูกหนี้ยากขึ้น คุณภาพลูกหนี้เริ่มแย่ลง

o การบริหารทรัพยากรบุคคลทั้งพนักงาน ลูกค้า และผู้ที่เกี่ยวข้อง บริษัทจดทะเบียนป้องกันและคัดกรองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข การดูแลสุขภาพของพนักงาน การทดสอบ / การทำงานระยะไกล (Tele Conference) อีกทั้งปัญหาในเรื่องการเข้าทำงานตามสถานที่ทำงาน (site) ทั้งต่างประเทศและในประเทศ เป็นต้น

o ห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) บริษัทจดทะเบียนบางบริษัทเริ่มมีปัญหาด้านวัตถุดิบในกระบวนการผลิตโดยไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศจีนได้ และบางส่วนชะลอการสั่งซื้อเครื่องจักรจากประเทศจีน

o โอกาสทางธุรกิจ บริษัทจดทะเบียนใช้โอกาสปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ อาทิ การเพิ่มช่องการจัดจำหน่ายและกระตุ้นยอดขายออนไลน์ นอกจากนี้บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มธุรกิจการเงินได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่โดยรับประกันภัยส่วนบุคคลไวรัสโคโรนา (COVID-19) เป็นต้น

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนกำหนดนโยบายการรับมือเหตุการณ์ COVID-19 ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน อาทิ การเพิ่มสัดส่วนการซื้อขายออนไลน์ / ปรับลดค่าเช่าให้กับลูกค้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน การกำหนดมาตรการป้องกันและบทลงโทษพนักงานในกรณีไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด การเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน อาทิ การทำงานออนไลน์ (work from home) การประชุมทางไกล (Teleconference) การชะลอการรับวัตถุดิบ การลดกำลังการผลิต การวางแผนจัดหาวัตถุดิบเพื่อการผลิต เป็นต้น

ขณะที่สถานการณ์ COVID-19 ยังไม่กระทบต่อการลงทุนของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ โดย 61% ของบริษัทจดทะเบียนที่ตอบแบบสอบถามยังวางแผนลงทุนตามแผนเดิม ขณะที่ 32% ชะลอการลงทุนออกไปก่อน และอีก 7% รอดูสถานการณ์และเลือกชะลอการลงทุนในบางโครงการ

หากรัฐบาลประกาศยกระดับเป็นระยะที่ 3 สัดส่วนบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับผลกระทบจะมีสัดส่วนสูงขึ้นเล็กน้อยเป็น 71% จากปัจจุบันที่มีบริษัทจดทะเบียนได้รับผลกระทบ 68% และคาดการณ์ผลกระทบและเตรียมแผน BCP ไว้รองรับ

นอกจากนี้ 71% ของบริษัทจดทะเบียนที่ตอบแบบสอบถามจะได้รับผลกระทบหากรัฐบาลประกาศยกระดับเป็นระยะที่ 3 และบริษัทจดทะเบียนมีการเตรียมแผน BCP เพื่อรองรับ

ขณะที่ 43% ของบริษัทจดทะเบียนที่ตอบแบบสอบถามคาดว่าธุรกิจจะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 1 ไตรมาส หลังจาก WHO ประกาศว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั่วโลก โดยบริษัทจดทะเบียนที่คาดการณ์ใช้เวลาฟื้นตัวน้อยที่สุด คือ ใช้เวลา 1 เดือน และบริษัทจดทะเบียนที่คาดการณ์ใช้เวลาฟื้นตัวนานที่สุด คือ 1 ปี