บลจ.ไม่รีบออกทริกเกอร์ฟันด์ – MFC ใจกล้าตั้งกองหุ้นลุยซื้อ

HoonSmart.com>> “บลจ.วรรณ-ทิสโก้” รอดูสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย ไม่รีบออกทริกเกอร์ฟันด์ “ทิสโก้” ชี้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่่น ราคาน้ำมันดิบดิ่งหนักซ้ำเติม ปัจจัยลบไวรัสโควิด-19 กระทบลงทุน MFC จับจังหวะลงทุน ชี้หุ้นดิ่งใกล้เคียงอดีตเกิดวิกฤต ออกกองทุน M-FOCUS คัดหุ้นไทยลงทุนไม่เกิน 30 ตัว

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ เปิดเผย HoonSmart.com ว่า บลจ.วรรณ ยังไม่มีแผนออกกองทนทริกเกอร์ลงทุนหุ้นไทย โดยมองแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวผันผวนอย่างมากในกรอบ 1,200 –1,300 จุด โดยปัจจัยลบที่มีผลต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกมาจากซาอุดิอาระเบียเปิดฉากทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย อุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันเพิ่มเติมจากความกังวล COVID-19 ที่จะทำให้อุปสงค์น้ำมันลดลง โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานค่อนข้างสูง จึงรับผลลบอย่างเลี่ยงไม่ได้

นอกจากนี้ด้วยภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยเชิงเทคนิคในปีนี้ ทำให้กนง.มีโอกาสสูงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ถึง 0.5% ในการประชุมครั้งถัดไป อีกทั้งภาครัฐได้ออกมารตรการให้ผ่อนปรนการชำระหนี้ ซึ่งจะกดดันราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่มีน้ำหนักรองลงมาจากกลุ่มพลังงาน

ขณะที่การประมูลเทสโก้มีแนวโน้มกดดันราคาหุ้นค้าปลีกที่เข้าร่วมประมูล ซึ่งมีน้ำหนักในดัชนีสูงเช่นกัน แนะนำให้นักลงทุนประเมินระดับความเสี่ยงที่รับได้ของตนเองก่อนพิจารณาเข้าถวัเฉลี่ยในกองทุนหุ้นไทยที่ได้สะสมไปก่อนหน้า เช่น ONE-SETHD 1AMSET50 และ ONE-EC14

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่มีแผนออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ เพื่อเข้าลงทุนหุ้นไทยในตอนนี้ เนื่องจากประเมินว่าตลาดรวมยังขาดความมั่นใจจากนักลงทุน นอกจากประเด็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะคุมสถานการณ์ได้เร็วแค่ไหน การปรับตัวลงแรงของราคาน้ำมันดิบกว่า 30% กระทบตลาดหุ้นไทยอย่างหนัก โดยยังต้องรอการประชุมโอเปกในสัปดาห์หน้าว่าจะได้ข้อสรุปอย่างไร

“ตอนนี้อาจต้องดูสถานการณ์ตลาดวันต่อวัน เนื่องจากตลาดผันผวนค่อนข้างมาก แม้ดัชนีจะปรับตัวลงมามาก แต่หากรีบออกตอนนี้ยังไม่มั่นใจว่านักลงทุนจะสนใจ เพราะทั้งโควิด-19 และราคาน้ำมันดิบยังกดดันการลงทุน “นายสาห์รัช กล่าว

สำหรับนักลงทุนที่ถือลงทุนหุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทยอยู่แล้ว ไม่แนะนำให้ขายออก เพราะราคาลงมามาก ขณะเดียวกันไม่ต้องรีบเข้าซื้อหุ้น ซึ่งมองว่าราคาหุ้นอาจยังไม่นิ่ง ควรรอดูการประชุมโอเปกสัปดาห์หน้าก่อน โดยยังมองหุ้น Defensive น่าสนใจ ซึ่งราคาปรับตัวลดลงน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆและตลาด

ด้านนายสดาวุธ เตชะอุบล รักษาการกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดเผยว่า บลจ.เอ็มเอฟซีจับจังหวะลงทุนหลังหุ้นไทยร่วงแรง โดยออกกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โฟกัส อิควิตี้ (M-FOCUS) เสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 9 – 17 มี.ค.2563 ลงทุนหุ้นไทยไม่เกิน 30 บริษัท คัดเลือกหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี และหรือมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี โดยใช้ปัจจัยพื้นฐาน ประกอบกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค และมีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดการลงทุนในแต่ละขณะและมีโอกาสรับเงินปันผลเมื่อกองทุนสามารถจ่ายได้อย่างน้อยปีละครั้ง

สายบริหารกองทุนเอ็มเอฟซี มองปัจจัยสนับสนุนการลงทุนได้แก่ ในช่วงที่ผ่านมาตลาดตราสารทุนไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ในระยะสั้นตลาดมีความผันผวนค่อนข้างรุนแรง แต่สำหรับมุมมองการลงทุนในระยะยาว การที่ตลาดปรับตัวลงมาถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นมีการปรับตัวลงมาใกล้เคียงกับในอดีตที่เคยเกิดวิกฤต จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการคัดกรองหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีศักยภาพในการเติบโตสูง เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่มุ่งเน้นผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว

อ่านข่าว

MFC จับจังหวะ SET ดิ่งออกกองทุน M-FOCUS ช้อปหุ้นไม่เกิน 30 บริษัท