HoonSmart.com>>บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ให้แนวรับ 1,355 และ 1,335 จุด แนวต้าน 1,380 และ 1,400 จุด จากสัปดาห์ก่อนปิดที่ 1,364.57 จุด บวก 1.79% ส่วนค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบเคลื่อนไหว 31.20-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า หุ้นสัปดาห์ถัดไป (9-13 มี.ค.) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีแนวรับที่ 1,355 และ 1,335 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,380 และ 1,400 จุด ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของครม. และสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ.ของจีน
สัปดาห์ที่ผ่านมา (2-6 มี.ค.) ดัชนีหุ้นยังคงเพิ่มขึ้น 1.79% จากสัปดาห์ก่อน ปิดที่ระดับ 1,364.57 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 64,402.74 ล้านบาท ลดลง 21.77% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.90% ปิดที่ 269.34 จุด
ต้นสัปดาห์หุ้นย่อตัวลงช่วงสั้นๆ ก่อนจะดีดตัวขึ้น ขานรับการทยอยปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% แบบฉุกเฉิน รวมถึงการเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ดัชนีฯ ลดช่วงบวกลงในช่วงปลายสัปดาห์ หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจีนมีสัญญาณรุนแรงมากขึ้น ซึ่งกระตุ้นความกังวลต่อการชะลอตัวของทั้งเศรษฐกิจโลกและไทย
ทางด้านค่าเงินบาท สัปดาห์ถัดไป (9-13 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหว ที่ 31.20-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้น แต่ภาพรวมทั้งสัปดาห์ยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด จากเผชิญแรงกดดันความกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค) ต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตร เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าและสามารถฟื้นตัวขึ้นได้บางส่วน โดยเฉพาะหลังเฟดลดดอกเบี้ย นอกจากนี้เงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
ในวันศุกร์ (6 มี.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 31.56 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (28 ก.พ.)
อ่านข่าว
