BAM กำไร 6,549 ลบ.โต 25% ซื้อทรัพย์สินได้ถูกปี 62

HoonSmart.com>>บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์เปิดผลงานทั้งปี 2562 กำไรเพิ่มขึ้น 1,347 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 4 ทำได้ 1,667 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 11% ผลงานยังเข้าเป้า สินทรัพย์รวม  115,789 ล้านบาท โต 7% มูลค่าหลักประกัน-ราคาประเมินสูงกว่า 2 เท่าของทีรัพย์ที่ซื้อเข้ามา คาดปี 2563 สถาบันการเงินเสนอขายทรัพย์สินด้อยค่าจำนวนมาก

บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เปิดผลงานประจำปี 2562 กำไรสุทธิ 6,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,347 ล้านบาท เติบโต 25.90 % จากที่มีกำไรสุทธิ 5,202 ล้านบาท

เฉพาะไตรมาส 4/2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,667 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,891 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 11.84%

ในปี 2562 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่มีผลประกอบการที่น่าพอใจ และเป็นไปตามที่ผู้บริหารคาดหวังไว้ บริษัทสามารถสร้างผลเรียกเก็บเงินสดจากธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs)และธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย(NPAs) เป็นเงินทั้งสิ้น 19,732 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เรียกเก็บได้ 16,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,163 ล้านบาท คิดเป็น 16.03%

บริษัทฯสามารถรักษาระดับการขยายสินทรัพย์ได้อย่างเหมาะสมตามภาวะเศรษฐกิจและประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์ให้เป็นเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2562 บริษัทมีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 115,789 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,136 ล้านบาท คิดเป็น 7.6%

นอกจากนี้บริษัทยังมีมูลค่าทางบัญชีของเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้สุทธิจำนวน 77,374 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักประกัน 192,189 ล้านบาท คิดเป็น 2.48 เท่าของมูลค่าทางบัญชี ส่วนมูลค่าทางบัญชีของทรัพย์สินรอการขายสุทธิ 23,899 ล้านบาท มีราคาประเมินของทรัพย์สินรอการขายประเภทอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์รวมทั้งสิ้น 55,069 ล้านบาท คิดเป็น 2.30 เท่าของมูลค่าทางบัญชี แสดงให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทฯในการซื้อทรัพย์สินด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายในราคาที่เหมาะสม

ส่วนการดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ในปี 2563 บริษัทคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวในระดับต่ำ จะมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกขายในระบบสถาบันการเงินมากยิ่งขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงสถาบันการเงินมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเพิ่มสูงขึ้น และมีการบังคับใช้กฎเกณฑ์ใหม่ทางบัญชี คาดว่าสถาบันการเงินหลายแห่งจำเป็นต้องนำสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกมาประมูลขายมากขึ้น ขณะที่ผู้เล่นรายย่อยหลายรายอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อมั่นว่ายังมีศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจไว้ได้

ด้านบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า แม้กำไรปกติไตรมาส 4/2562 ของ BAM ออกมาต่ำกว่าคาด แต่ยังคงมุมมองบวกต่อ BAM โดยมองประเด็นการปรับวิธีการรับรู้ผลประโยชน์ของ DTA จะช่วยลดแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายภาษีที่จะเริ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปีนี้ลง (BAM เริ่มจ่ายภาษีนิติบุคคลหลังสูญเสียสถานะรัฐวิสาหกิจ) โดยหากบริษัทสามารถรับรู้ผลประโยชน์ดังกล่าวเป็นเส้นตรงได้ จะทำให้ค่าใช้จ่ายภาษีลดลงปีละ 580 ล้านบาท และส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 มี Upside Risk ราว 12.6% (คาดมีความชัดเจนมากขึ้นหลังการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 10 มี.ค. นี้)

ภายใต้ประมาณการปัจจุบัน PY’คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 4,615 ล้านบาท ลดลง -29.5% จากงวดปีก่อน จากฐานที่สูงในปีก่อนซึ่งมีลูกหนี้ NPL รายใหญ่มาชำระบัญชี แต่คาดจะเริ่มเห็นผลบวกจากกระบวนการดำเนินงานที่คล่องตัวมากขึ้นและขั้นตอนในการดำเนินงานที่ลดลงหลังปรับโครงสร้างสู่การเป็นบริษัทเอกชนเต็มตัว ก่อนที่จะพลิกกลับมาโตเฉลี่ยปีละ 7.3% ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป

“ราคาหุ้น BAM ปัจจุบันมี Upside 7.1% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2563 ที่ 30 บาท และคาดมีเงินปันผลจ่ายอีก 1 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3.6% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ” บล.หยวนต้า ระบุ