MTS คาดทอง 2.7 หมื่นบาทมี.ค. ราคาโลกขาขึ้น-เงินบาทอ่อนหนุน

HoonSmart.com>>กลุ่มเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก มองทองยังน่าลงทุน ปี 63 ราคาขึ้นมาแล้ว 10% มีโอกาสไปต่อ 5-10 % ได้เงินบาทอ่อนช่วย   27 ก.พ. ราคาในประเทศเปลี่ยนแปลง 9 ครั้ง ปิดลดลงบาทละ 100 บาท  เปิดตัว “MTS Gold Blockchain ” สะสมเงินซื้อทองคำแท่งที่บริสุทธิ์ 96.5% ออนไลน์ 

ณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก (MTS) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาทองคำในปี 2563 ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดมีโอกาสขึ้นสูงสุดในช่วงเดือน มี.ค. ที่ราคาประมาณ 27,000-27,500 บาทต่อหนึ่งบาท แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาทองนิวไฮในรอบ 7 ปีแล้วก็ตาม  โดยมีกรอบแนวต้านสำคัญ 1,700-1,750 เหรียญสหรัฐฯต่อออนซ์และแนวรับที่ 1,630 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญต่อไป

ทั้งนี้ราคาทองในประเทศวันที่ 27 ก.พ. 2563 ผันผวนมาก มีการเปลี่ยนแปลงถึง 9 ครั้ง ปิดลดลง 100 บาท ทองคำแท่ง รับซื้อ 24,650 บาท ขายออก 24,750 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 24,210 บาท และขายออก 25,250 บาท

นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและความผันผวนน้อยกว่าการลงทุนประเภทอื่น จะเห็นได้ว่าตลอดปี 2563 ราคาทองคำต่างประเทศปรับขึ้นมาแล้วกว่า 10% ขณะที่ทองคำไทยขึ้นมากกว่า 19.37% แต่คาดว่าหลังไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง  ราคาทองคำจะลดลงประมาณ 5-8% แต่ราคาในประเทศยืนเหนือ 25,000 บาทได้อย่างต่อเนื่อง ราคาจะเพิ่มขึ้นได้อีก 5-10% ควบคู่กับเงินบาทที่ยังคงปรับอ่อนค่าในเวลานี้

ส่วนการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดขนาดใหญ่ในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง, สิงคโปร์,เซี่ยงไฮ้ โดยมีสัญญาซื้อขายสินค้าประเภท ทองคำ น้ำมัน น้ำตาล ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายไปยังตลาดโลหะลอนดอน (London Metal Exchange) เพื่อเพิ่มตลาดการลงทุนให้มีความหลากหลาย อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับ CME Group ตลาดอนุพันธ์ชั้นนำรายใหญ่ในการจัดงาน MTS Global Expo 2020 โครงการสำคัญที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเสริมทักษะกลุ่มนักลงทุนไทยด้วยวิทยากรชั้นนำจากต่างประเทศ

บริษัทยังคงร่วมมือกับพันธมิตรในตลาดอนุพันธ์ต่างประเทศ เพิ่มสินค้าและบริการให้มีความหลากหลายและครบครันมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาวิเคราะห์และประมวลผลสัญญาการซื้อขายสินค้าในตลาดอนุพันธ์ต่างๆ รวมไปถึงนำเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น BIG DATA มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการลงทุนให้แก่นักลงทุนไทย และเปิดโอกาสการเข้าถึงสินค้าในตลาดโลกได้อย่างหลากหลาย แต่ในการเจรจากับพันธมิตรต่างๆต้องหยุดพักไปก่อนเนื่องจากไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ บริษัทฯได้เปิดตัว “MTS Gold Blockchain ”ระบบสะสมเงินซื้อทองคำแท่งที่บริสุทธิ์ 96.5% ในรูปแบบออนไลน์ เป็นรายแรกที่นำระบบ Blockchain มาใช้ในการออม และ การจัดเก็บข้อมูล โดยไม่ผ่านบุคคลที่สามเพื่อป้องกันความเสียหายด้านข้อมูล ทองคำ และ การทำธุรกรรมซึ่งเป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูงเทียบเท่ามาตรฐานธนาคารชั้นนำแห่งประเทศไทย นักลงทุนสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 150 บาท หรือเริ่มต้นได้ด้วยน้ำหนัก 0.1 กรัม ไม่มีค่าธรรมเนียม ซื้อได้ตลอดทั้งวัน ในราคาตามตลาดจริงที่แปรผันราคาทองคำโลก (Real Time) ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สามารถโอนมอบทองคำในระบบให้กับสมาชิกคนอื่นๆที่อยู่ระบบเดียวกันได้ เมื่อสะสมครบตามจำนวนที่ต้องการสามารถแลกรับเป็นทองคำในรูปแบบทองคำแท่งจริงได้ตั้งแต่ขั้นต่ำ 1 กรัม ในทุกสาขาของห้างทองแม่ทองสุก แต่ ณ ปัจจุบัน ยังสามารถรับทองแท่งได้ภายในพื้นที่กรุงเทพฯ ในอนาคตจะมีการจัดส่งทั่วพื้นที่ประเทศ เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนไทยหันมาออมทองคำกันมากขึ้น ซึ่งในอนาคต จะมีการออกเป็นรูปแบบแอพพลิเคชั่น เพื่อตอบสนองรูปแบบที่สะดวกมากขึ้น

“ ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ลูกค้ารายย่อยที่ต้องการซื้อทองทำได้ยากขึ้น “MTS Gold Blockchain” จึงน่าจะเป็นทางเลือก สำหรับมนุษย์เงินเดือนหรือรายย่อย ให้สามารถเข้าถึงการลงทุนด้วยการออมทองได้ง่ายขึ้น ในปีนี้ตั้งเป้าจะมียอดเปิดบัญชีออมทองกว่า 10,000 บัญชี” นายณัฐพงศ์ กล่าว