HoonSmart.com>> นักลงทุนแพนิค เทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก หลังพบคนไทย ติดโควิด-19 เพิ่ม ลามเข้าแบงก์ -โรงเรียน กดหุ้นไทยหลุด 1,400 จุด ปิดโลว์ของวันร่วง 72.69 จุด หรือ 5 % หนักสุดในภูมิภาค หาจุดต่ำสุดไม่เจอ หากโรคยังแพร่กระจายไม่หยุด เจอกัน 1,200 จุด
ตลาดหุ้นไทยตื่นตระหนกโควิด-19 หนักขึ้นกว่าเดิม เปิดตลาดดัชนีไหลลงทันที 18 จุด และไหลลงหนักต่อเนื่อง หลุด 1,400 จุดลงมา กระทั่งปิดต่ำสุดของวันที่ 1,366.41 จุด ลดลง 72.69 จุด หรือ 5 % มูลค่าซื้อขาย 93,189.41 ล้านบาท กองทุนขายหุ้นหนัก 4,494 ล้านบาท ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิเพียง 834 ล้านบาท
ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยร่วง 5% หนักสุดในภูมิภาค ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงลดลง 0.73% , ญี่ปุ่น -0.79% , ไต้หวัน -0.92 % ,เกาหลี -% สิงคโปร์ -0.91 % และจีน -0.83%
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ผลกระทบไวรัสโควิด-19 ส่งผลตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะดาวโจนส์ ปรับลดลง 800 กว่าจุด หรือ 3.15% ส่วนตลาดหุ้นไทย จากต้นปี 63 จนถึงปัจจุบัน ลดลงเกือบ 9% แต่บางกลุ่มอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบน้อยมาก ต้องการให้มองว่าตลาดหุ้นไทยมีความแข็งแกร่งต่อทุกวิกฤต เชื่อว่าหากวิกฤตโควิด-19 คลี่คลายลง ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้เร็ว และรีบาวด์กลับมาได้
สำหรับกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวลงน้อย ได้แก่ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร -3.23% , กลุ่มของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน + 2.35% , กลุ่มกระดาษและวัสดุการพิมพ์ +1.05% , กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ +5.66% และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +0.54% เช่น กลุ่มโรงพยาบาล ขนส่ง และ ท่องเที่ยว เพราะเป็นจุดแข็งของไทยมาโดยตลอด
“ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตลอด 3 วัน และมีการรีบาวด์ระหว่างวัน แสดงว่า ตลาดยังมีโอกาสในการลงทุน มีบางอุตสาหกรรมที่เป็นบวก เศรษฐกิจไทยไม่ได้มีผลต่อบจ. 100% แม้ว่าเศรษฐกิจจะโตช้า แต่บจ.มีการเจริญเติบโตนอกประเทศ ทำธุรกิจนอกประเทศ ด้วยสภาพคล่องของหุ้นไทย ทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งสภาพคล่องไม่ได้หายไปเลย ช่วงที่หุ้นตกมาก ๆ มูลค่าซื้อขายสูง เพราะคนมองว่ามีโอกาส “นายภากรกล่าว
ส่วนนักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้นออกเงินก็ยังไม่ได้ออกไปจากไทย ค่าเงินไม่ได้แกว่งตัวมากนัก เงินไปลงทุนในตลาดพันธบัตร มองจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี ผลตอบแทน 1.1% นับว่าต่่ำมาก
หุ้นไทยมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย หุ้นมีจำนวนมาก เมื่อไรก็ตาม ที่มีความแน่นอน ต่างชาติจะกลับเข้ามา เพราะตลาดหุ้นไทยมีน้ำหนักถึง 2.7-2.8% ในดัชนี MSCI กองทุน Passive จะต้องกลับเข้ามาลงทุนเท่ากับน้ำหนักใน MSCI หากมีการฟื้นตัวเร็ว ก็จะลงทุนมากกว่านั้น
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ส่งงบช้านั้น คาดว่าจะส่งได้กลางเดือนมี.ค.นี้ หรือกลางเดือนเม.ย. จากปัจุบันนำส่งแล้ว 330 บจ. หรือประมาณ 40% คาดว่าผลประกอบการของ บจ. ใน ไตรมาส 4/62 น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1-2-และ 3
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทาลิส กล่าวว่า ตลาดที่ปรับตัวลงมาก เพราะขาดความเชื่อมั่น สำหรับนักลทุนระยะยาว มองว่าเป็นโอกาสในการเลือกซื้อบริษัทที่ได้รับผลกระทบน้อย และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เช่น ค้าปลีก CPALL รวมถึงหุ้นท่องเที่ยว ที่ปรับตัวลงมามาก หากสถานการณ์ได้รับการแก้ไข ราคาหุ้นก็จะปรับขึ้นมา
นักวิเคราะห์บล.เคจีไอ (ประเทศไทย ) มองว่า ตลาดหุ้นที่ตกหนัก 72 จุด มีแต่คนขาย ไม่มีคนซื้อ โดยตื่นตระหนกจากการปิดสาขาแบงก์ และมีคนติดเชื้อเพิ่ม มองว่าดัชนีอาจจะปรับตัวลงไปลึกถึง 1,200 จุด ได้ หากสถานการณ์การแพร่เชื้อ ไม่สามารถควบคุมได้
อ่านข่าว
‘เอเซียพลัส’ ชี้จังหวะเก็บหุ้นพื้นฐานแกร่ง วิกฤตคลี่คลาย SET ฟื้นเร็ว