HoonSmart.com>>”ซีเค พาวเวอร์ “เปิดผลงานปี 62 กวาดรายได้ 8,840 ล้านบาท กำไร 769 ล้านบาท เติบโต 28% มั่นใจปี 2563 เติบโตต่อเนื่อง รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเต็มปี จ่ายเงินปันผล 0.03 บาท
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์(CKP) เปิดเผยว่า ในปี 2562 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 8,840 ล้านบาท กำไรสุทธิ 769 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28% เนื่องจากมีรายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าสถานีไฟฟ้าย่อยนาบง และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ที่ได้เริ่มซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แล้วตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 2562 บริษัทยังเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา รวม 5 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 4.07 เมกะวัตต์ และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี อีก 5.33% ส่งผลให้บริษัทฯ เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมในโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 เป็น 46 %
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 ออกและจำหน่ายหุ้นกู้รวม 6,000 ล้านบาท นำไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินทั้งหมด เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ ที่อันดับ “A” และปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดอื่น ๆ ทั้งหมด เป็นอันดับ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” บริษัทได้ทยอยรับเงินจองซื้อหุ้นจากการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ CKP-W1 จำนวน 4,556 ล้านบาท ส่งผลให้ฐานะทางการเงินมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม อยู่ที่ 0.62 เท่า ณ สิ้นปี 2562 แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงิน พร้อมที่จะลงทุนในโครงการใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า แนวโน้มในปี 2563 บริษัทฯ คาดว่าจะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี เต็มกำลังผลิตตลอดทั้งปี พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจด้านผลิตพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่อไป
“ CKP มุ่งมั่นต่อการพัฒนาสู่ความยั่งยืน ถือเป็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าสะอาด ตอบสนองต่อการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งในประเทศและ สปป.ลาว อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โรงไฟฟ้าเติบโตควบคู่ไปกับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป” นายธนวัฒน์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าจำนวน 13 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งที่ 2,167 เมกะวัตต์
ด้านคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.03 บาท ให้ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 8 พ.ค.และจ่ายเงินวันที่ 27 พ.ค.2563 สำหรับผลการดำเนินงานปี 2562