TU ปักธงกำไร 5 พันลบ./ปี เน้นสินค้ามาร์จิ้นสูง

HoonSmart.com>>ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ปตั้งเป้า 5 ปี เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 20% งบลงทุน  5.5 พันลบ./ปี  ศึกษาซื้อกิจการ ส่วนแผนปี 63 คาดรายได้โต 3-5%  

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 3-5% และใน 5 ปี จะมีกำไรสุทธิเกิน 5,000 ล้านบาท ยอดขายสูงกว่า 5,000 ล้านเหรียญ ทั้งนี้ในปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,816 ล้านบาท เติบโต 17.20% หรือเพิ่มขึ้น 560 ล้านบาท จากที่มีกำไรสุทธิ 3,256ล้านบาทในปี 2561

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า การจะไปถึงเป้าหมายได้ บริษัทใช้กลยุทธ์เน้นสินค้าที่มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นสูงกว่าสินค้าหลัก  ปัจจุบันอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16% ตั้งเป้าไว้ที่ 20% โดยการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต   ควบคุมการใช้พลังงานให้เหมาะสม และการใช้พลังงานสะอาดเพื่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงควบคุมถุงพลาสติกด้วย บริษัทตั้งงบลงทุนประมาณปีละ 5,500 ล้านบาทในช่วง 5 ปี (2563-2567)  เพิ่มเครื่องจักรและซ่อมบำรุงเครื่องจักร และการติดตั้งโซลาร์ เพื่อใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนในอุตสาหกรรม ทั้งนี้ไม่รวมงบในการซื้อกิจการ

ส่วนเป้าหมายในการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนธุรกิจอาหารสัตว์เป็น  25% ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 30% และธุรกิจที่นำส่วนประกอบจากสัตว์ทะเลมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นมผง เครื่องสำอาง 5-10% โดยยังคงตลาดทวีปอเมริกาเหนือไว้ที่ 41% ทวีปยุโรป เพิ่มเป็น 30% จากเดิม 28% ทวีปเอเชียและไทย ตั้งไว้เกิน 12% ที่ผ่านมาบริษัทฯได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้รายได้ในปี 2562 ลดลง 5.3% อยู่ที่ 126,270 ล้านบาท เพราะรายได้หลักมาจากทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป

นอกจากนี้บริษัทเน้นการลงทุนในการสร้างนวัตกรรม Food Tech ตั้งงบลงทุนไว้ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้อนุมัติไปแล้ว 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากการลงทุน

สำหรับแผนการนำหุ้นของบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก(IPO) มีทั้งหุ้นเพิ่มทุนและหุ้นเดิมใน TFM ขณะนี้ทางบริษัทย่อยเตรียมพร้อมแล้ว แต่ขอประเมินสถานการณ์ก่อน คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 2/2563