HoonSmart.com>> “ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้” ชี้ ไวรัสโคโรน่าอาจกระทบรุนแรงต่อท่องเที่ยวไทย ด้านราคาหุ้นไทยปรับลงมาสะท้อนผลกระทบไปมากแล้ว ชี้หากตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อนิ่ง ดัชนีหุ้นไทยอาจเด้งกลับรวดเร็ว
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า สำหรับมุมมองเรื่องผลกระทบของการระบาดของไวรัสโคโรน่านั้น TISCO ESU ประเมินว่า การควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ น่าจะทำได้รวดเร็วกว่าการควบคุมการระบาดของโรค SARS ที่เกิดขึ้นในปี 2546 เนื่องจากเทคโนโลยีการแพทย์ก้าวหน้าขึ้น และจีนมีบทเรียนจากโรค SARS แล้ว นอกจากนี้ ทางการจีนยังให้การตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยได้แจ้งไปยังองค์การอนามัยโลก (WHO) ภายใน 23 วันหลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรก
ในขณะที่กรณีของโรค SARS จีนพยายามปิดข่าวและรอถึง 86 วันก่อนจะเปิดเผยถึงการระบาด นอกจากนี้ ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ยังดูมีความรุนแรงน้อยกว่าโดยข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่าผู้ติดเชื้อมีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 3% ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด ซึ่งต่ำกว่าโรค SARS ที่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 10% ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยนั้น อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อการท่องเที่ยวไทย โดยหากย้อนไปดูผลกระทบของการระบาดของโรค SARS ซึ่งมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 8,000 รายและเสียชีวิตเกือบ 800 รายทั่วโลกนั้น ได้ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยในช่วงไตรมาส 2/2546 หดตัวถึง 40% นำโดยนักท่องเที่ยวจีนที่มีจำนวนลดตัวลงแรงถึง 79%
“ในกรณีเลวร้ายหากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่ายังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยรุนแรงกว่าการแพร่ระบาดของโรค SARS เนื่องจากนักท่องเที่ยวเอเชียที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากในอดีต โดยเฉพาะตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด จากปี 2545 ที่มีสัดส่วนเพียง 7%” นายคมศร กล่าว
สำหรับผลกระทบในด้านการลงทุนนั้น TISCO ESU ประเมินว่าราคาหุ้นไทยได้ปรับตัวลงมาสะท้อนผลกระทบไปมากแล้ว โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยกลุ่มท่องเที่ยว (SET TOURISM) ปรับลดลงมาประมาณ 18% นับจากวันที่มีการค้นพบโรค ในขณะที่ปี 2546 ซึ่งเป็นช่วงที่โรค SARS แพร่ระบาดนั้น ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงเพียง 10% และหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่มีแนวโน้มลดลงตลาดหุ้นไทยก็ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ประเมินว่าดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับลดลง (Downside) จำกัด โดยปัจจุบันนักลงทุนยังคงติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 3 – 4 วันที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 1,700-2,000 ราย/วัน หากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เริ่มนิ่ง และมีแนวโน้มกลับมาลดลง จะเป็นสัญญาณบวกที่จะทำให้ตลาดหุ้นดีดกลับได้อย่างรวดเร็ว”นายคมศร กล่าว