HoonSmart.com>>อินโดรามาฯ ไหลลงมาต่ำสุดในรอบ 1 ปี ผู้บริหารพบนักวิเคราะห์พิเศษ ชี้แจงประโยชน์ซื้อ Hantsman บล.เคทีบีมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้น คงแนะนำซื้อ เป้า 44 บาท คาดปีนี้กำไรลด 30% เหลือ 18,258 ล้านบาท แต่ดีลซื้อกิจการจบหนุนปีหน้าโต “ระเฑียร”รองประธานกรรมการซื้อ 4 หมื่นหุ้น ราคาเฉลี่ย 36 บาท นักวิเคราะห์ 16 รายให้ราคากลาง 47.50 บาท
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL)ปรับตัวลงมาแรงอย่างต่อเนื่อง จนราคาลงมาอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ปิดที่ระดับ 34.50 บาท ลดลงประมาณ 45% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาสูงสุดที่ 63 บาท
ผู้บริหาร IVL ได้จัดงานพบนักวิเคราะห์พิเศษ เพื่อชี้แจงประโยชน์ที่เข้าไปลงทุน Hantsman Corporation ประเทศสหรัฐอเมริกาหลายเรื่อง นักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 44 บาท/หุ้น สูงขึ้นประมาณ 28% จากราคาปัจจุบันอยู่ที่ 34.50 บาท ไม่รวมโอกาสในการปรับขึ้นจากการเข้าซื้อ Hantsman ประมาณ 2-4 บาท คาดว่าดีลจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 จึงยังคงประมาณการกำไรปีนี้ ที่ 18,258 ล้านบาท ลดลง 30.9% จากปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ Hantsman ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการผลิตออกไซด์แบบบูรณาการ (Integrated Oxides) และอนุพันธ์ (Derivatives)
เรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้น คาดว่า Hantsman ช่วยเพิ่ม EBITDA อีกประมาน 320 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และจะช่วยสร้าง synergy กับธุรกิจที่บริษัทมีอยู่เดิมที่สหรัฐอเมริกาได้อีกราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนราคาหุ้น 12 เดือนที่ผ่านมาปรับลง 34% สะท้อนธุรกิจปิโตรเคมีที่อ่อนแอไประดับหนึ่งแล้ว ทำให้ EV/EBITDA มาอยู่ที่ระดับ -2SD เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี ใกล้เคียงกับปี 2557-2558 ที่มีระดับ EBITDA margin ที่ 6-9% ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมี EBITDA margin ราว 10% แต่ในปี 2563 หลังจากรวม Hantsman มาแล้ว EBITDA จะเติบโตได้ราว 25% และEBITDA margin จะปรับขึ้นไปอยู่ในระดับ 12-13% ดังนั้นราคาหุ้นในปัจจุบันมีความน่าสนใจ ทั้งนี้ยังมีปัจจัยความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้าที่อาจจะมีผลต่อธุรกิจปิโตรเคมี ที่ทำให้ส่วนต่างราคาปรับลดลงได้
นักวิเคราะห์ 16 คนดูแลหุ้น IVL มี 12 คนแนะนำให้ ซื้อ และ 4 คนให้ ถือ ราคากลางอยู่ที่ 47.50 บาท ราคาเฉลี่ย 51.58 บาท บล.ไทยพาณิชย์ ให้มูลค่าเหมาะสมสูงที่สุด 74 บาทตามด้วย บล.โนมูระพัฒนสินให้มูลค่า 70 บาท ขณะที่ บล. CGS-CIMB แนะนำให้ถือและให้ราคาเป้าหมายต่ำที่สุด 40.50 บาท นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ากำไรต่อหุ้นในปีนี้จะลดลง หรือบางรายมองบวกเล็กน้อย ยกเว้นบล.ฟินันเซียไซรัส คาดเติบโตถึง 51% อยู่ที่ 5.30 บาทต่อหุ้น และทุกรายมองตรงกันกำไรจะฟื้นกลับมาเป็นบวกในปีหน้า
บล.ทรีนีตี้ แนะนำ 5 กลุ่มหุ้นที่ลงทุนได้ในช่วงนี้ หนึ่งในนั้นคือ กลุ่มหุ้น Global Play ที่มูลค่าลงมาในระดับต่ำมากแล้ว ได้แก่ IVL และกลุ่มน้ำมัน คือ PTTEP หลังราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลงมาอยู่ในกรอบแนวรับ ที่ 60 เหรียญฯ/บาร์เรลแล้ว
ทางด้านนาย ระเฑียร ศรีมงคล รองประธานกรรมการ IVL รายงานว่าได้ซื้อหุ้น IVL ในตลาดหลักทรพย์จำนวน 40,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 36 บาท เป็นเงิน 1.44 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2562 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีหุ้นทั้งหมด 615,200 หุ้น