HoonSmart.com>> “เก้าแก่น้อย” ไตรมาส 2/62 กำไร 98 ล้านบาท ลด 36% เหตุรายได้จากการขายในตลาดจีนหด ค่าใช้จ่าย ต้นทุนเพิ่ม ฉุดครึ่งปีกำไรหด ชี้รายได้ต่างประเทศส่งสัญญาณดีขึ้น คาดครึ่งปีหลังดีขึ้นต้นทุนสาหร่ายต่ำกว่าปีก่อน 10% บอรด์ปันผลผู้ถือหุ้น 0.11 บาท XD วันที่ 28 ส.ค.นี้
บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2562 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 จำนวน 98.41 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.07 บาท ลดลง 36.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 153.98 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.11 บาท
ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2562 กำไรสุทธิ 179.74 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.13 บาท ลดลง 41.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 305.69 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.22 บาท
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาส 2/2562 จำนวน 1,302.1 ล้านบาท เติบโต 1.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสก่อนหน้า และงวด 6 เดือนมีรายได้รวม 2,582.4 ล้านบาท เติบโต 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ตลาดในประเทศมีรายได้จากการขายในไตรมาส 2/2562 ลด 536 ล้านบาท หรือ -1.8% จากงวดปีก่อน และ 6 เดือนมีจำนวน 1,061.4 ล้านบาท เติบโต 4.6% จากงวดปีก่อน มีผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและลดลง 8% ในไตรมาส 2/2562 ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังรักษาส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ย 69% ในตลาดขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่าย
ส่วนตลาดต่างประเทศมีรายได้จากการขายในไตรมาส 2/2562 จำนวน 776.6 ล้านบาท เติบโต 3.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 4.3% จากไตรมาสก่อนหน้า มี 6 เดือนมีจำนวน 1,521 ล้านบาท ลดลง 2.2% จากงวดปีก่อน
อย่างไรก็ตามจีนยังเป็นตลาดส่งออกหลัก 36% ของรายได้จากการขายรวม แต่ยอดขายลดลง 8.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้แทนจำหน่ายรายใหม่อยู่ระหว่างเพิ่มการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ เพื่อทดแทนยอดขายของผู้แทนจำหน่ายรายเดิมรายหนึ่งที่เลิกสัญญาในปีที่ผ่านมาและเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสแรก นอกจากนี้ยังมียอดเติบโตตอ่เนื่องในสหรัฐฯ อินโดนีเซียและกลุ่มประเทศ CLMV
บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 364.5 ล้านบาท คิดเป็น 28% ของรายได้จากการขายในไตรมาส 2/2562 ลดลง 1.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากทรัพยากรการผลิตที่เตรียมรองรับยอดขายจีน แต่อัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลง รวมทั้งยังมีผลขาดทุนจากการผลิตที่สหรัฐฯ แต่งวด 6 เดือนปีนี้กำไรชั้นต้นคิดเป็น 27.3% เพิ่มขึ้น 0.1% จากงวดปีก่อน
ทั้งนี้ กำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นจากการเริ่มสาหร่ายฤดูกาลปี 2562 ทีต้นทุนต่ำกว่าปีก่อน 10% หลังจากสต็อกสาหร่ายของปีก่อนหมดและแผนการควบคุมตนทุนคงที่โรงงาน
สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 9% จากงวดปีก่อนมาอยู่ที่ 63.2 ล้านบาท และต้นทุนจัดจำหน่ายเพิ่ม 32.5% จากงวดปีก่อนมาอยู่ที่ 197.2 ล้านบาท
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.2562-30 มิ.ย.2562 ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลวันที่ 29 ส.ค. 2562 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 28 ส.ค. 2562 และจ่ายเงินปันผลวันที่วันที่ 11 ก.ย. 2562
