HoonSmart.com>>ช.การช่างยิ้ม หุ้นกู้มียอดจองซื้อล้นกว่า 5 เท่า ตั้งใจออก 4,500 ล้านบาท ต้องเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท ยอดสูงที่สุดของบริษัท อายุ 3-5 ปี จ่ายดอกเบี้ยต่ำไม่ถึง 3% ส่วน 10 ปีแจก 3.66% ขอไถ่ถอนก่อนครบกำหนดได้
นางสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง (CK) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ ภายในเดือน มิ.ย.2562 เดิมต้องการเงินประมาณ 4,500 ล้านบาท แต่จากผลการสำรวจความต้องการลงทุนในหุ้นกู้ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2562 มีผู้ลงทุนแสดงความจำนงซื้อหุ้นกู้ของบริษัทมากกว่า 5 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนต่อศักยภาพธุรกิจและผลการดำเนินงาน บริษัทจึงตัดสินใจเพิ่มจำนวนการออกหุ้นกู้รวมทั้งสิ้นเป็น 10,000 ล้านบาท
สำหรับหู้กู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้ แบ่งเป็น3 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.46% จำนวน 3,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 5 ปีอัตราดอกเบี้ย 2.90% จำนวน 3,500 ล้านบาทและหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.66% จำนวน 3,500 ล้านบาทซึ่งผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด ตั้งแต่ 5 ปี วัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ เพื่อชำระคืนหนี้เดิมและรองรับการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
หุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต”คงที่” เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2562 และบริษัทได้แต่งตั้งให้ ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารกรุงไทย เป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้
นางสุภามาส กล่าวว่า การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง นับเป็นมูลค่าสูงที่สุดที่บริษัทเคยจัดออกมา และเป็นการออกหุ้นกู้ครั้งแรก ภายหลังจากที่บริษัทได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A จากเดิมที่ระดับ A- เมื่อวันที่ 4 เม.ย.62 ที่ผ่านมา
การที่หุ้นกู้ของบริษัทได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างมากในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนในผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยผลประกอบการสิ้นปี 2561 มีรายได้รวม 29,499 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,487 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวม 83,501 ล้านบาทและหนี้สินรวม 57,672 ล้านบาท รวมถึงการมองเห็นถึงศักยภาพของบริษัทในการลงทุนในธุรกิจสัมปทานโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ที่มีความมั่นคง และมีอนาคตที่ดี อาทิ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) บริษัท ทีทีดับบลิว (TTW) และ บริษัท ซีเคพาวเวอร์ (CKP) โดยทั้ง 3 บริษัทดังกล่าวดำเนินงานที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อาทิระบบขนส่งมวลชนและสาธารณูปโภคพื้นฐานซึ่งอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานหรือสัญญาซื้อขายระยะยาว
นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทยตลอดจนความสามารถในการรับงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่และโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทางรวมทั้งความแข็งแกร่งในการดำเนินโครงการและความยืดหยุ่นทางการเงินที่เกิดจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท