HoonSmart.com>>”ออโตคอร์ปฯ”เตรียมขายไอพีโอ มิ.ย. ระดมทุนขยายธุรกิจ เปิดโชว์รูมฮอนด้าภูเก็ตเป็นสาขาที่ 8 เปิดแผนสยายปีกทั่วทุกภูมิภาค เพิ่มโอกาสการเติบโต ลดความเสี่ยงผันผวนทางธุรกิจ
นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง (ACG) ประกอบธุรกิจโฮลดิ้ง ถือหุ้นในบริษัทย่อย คือ บริษัท ฮอนด้ามะลิวัลย์ (บริษัทแกน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 156 ล้านหุ้น เพื่อนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือน มิ.ย.นี้ โดยมี บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจะเติบโตต่อเนื่อง จากการทยอยเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามแผนงาน โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ ล่าสุดบริษัทได้โชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ฮอนด้าสาขานาคา จ.ภูเก็ต เป็นสาขาที่ 8 อย่างเป็นทางการ สามารถรองรับรถของลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้เดือนละราว 2,400 คัน และยังจะทยอยเปิดสาขาต่อไปให้ครบทุกภูมิภาค จำนวน 7 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปี
บริษัทยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ส่วนงานบริการซ่อมและจำหน่ายอะไหล่ ซึ่งให้บริการหลังการขายตามมาตรฐานของฮอนด้า เช่น บริการซ่อมบำรุง ซ่อมตัวถังและสี ตลอดจนการจำหน่ายอะไหล่ และธุรกิจจากการนำเสนอบริการสินเชื่อเช่าซื้อและประกันภัยรถยนต์
นายภานุมาศ กล่าวว่า การทยอยเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ แล้ว ยังส่งผลดีในแง่ของ Economy of Scale และช่วยให้การบริหารสต็อกรถยนต์ในมือมีความคล่องตัวสูงขึ้น ปัจจุบันบริษัทต้องสต็อกรถยนต์มูลค่าราว 300-400 ล้านบาทในแต่ละเดือน รวมถึงจะช่วยขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลาย เนื่องจากคนในแต่ละพื้นที่มีพฤติกรรมการใช้บริการต่างกัน จึงช่วยลดความผันผวนในแง่ของ Seasonal Effect ได้
ทั้งนี้ การลงทุนตั้งโชว์รูมและศูนย์บริการของบริษัทมี 3 รูปแบบ ทั้งขนาด S ที่มีมูลค่าการลงทุนราว 60-80 ล้านบาท ขนาด M มูลค่าลงทุนราว 80-100 ล้านบาท และขนาด L มูลค่าลงทุนราว 100-120 ล้านบาท
ส่วนจุดแข็งของบริษัท มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนในจังหวัดต่าง ๆ เพิ่มขึ้น อย่างกรณีของ จ.ภูเก็ต ตัวแทนจำหน่ายรายเดิมได้ขอยกเลิกสัญญา บริษัทก็ได้รับการพิจารณาให้เข้ามาดำเนินงานแทน ขณะที่บริษัทมีความชำนาญในการออกแบบโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีศักยภาพสูงในการให้บริการลูกค้าด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าการตั้งประมาณการไว้
ด้านผลประกอบการของบริษัท ล่าสุด ไตรมาส 1/2562 บริษัทมีรายได้ 825.98 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15.75 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.04 บาท จากปี 2561 มีรายได้ 2.4 พันล้านบาท และมีกำไร 27.68 ล้านบาท สัดส่วนรายได้หลักมาจากการจำหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ราว 86% รายได้จากค่าซ่อมและอะไหล่ 10% รายได้จากค่านายหน้าประกันภัยและสินเชื่อเช่าซื้อ 2% ที่เหลือเป็นรายได้อื่น ๆ
ปัจจุบัน กลุ่ม ACG มีทุนเรียกชำระแล้ว 222 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 444 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 14 ก.ย.2561 มีกลุ่มรังคกูลนุวัฒน์ ถือหุ้นรวมกัน 444 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% และหลังการเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนลงเหลือ 74%
อ่านประกอบ
“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” เตรียมขาย IPO ไตรมาส 3 ระดมทุนขยายสาขา
