เปิดผลโพลนักวิเคราะห์ คาด 3 เดือนแรกตลาดหุ้นบวก เป้าดัชนีสิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ 1,682 จุด สิ้นปีคาด 1,782 จุด เปิด 5 หุ้นเด่น BBL, BEM, CPALL, STEC, WHA
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนรวม 27 บริษัท พบว่า ประมาณ 55.56% มองตลาดไตรมาสแรกมีแนวโน้มเป็นบวก ส่วนอีก 33.33% มองเคลื่อนไหวแคบๆ คาด ณ สิ้นไตรมาส 1 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,682 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่การเลือกตั้ง สงครามการค้า และทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
แนวโน้มตลาดหุ้นในปีนี้ยังมีความผันผวน นักวิเคราะห์คาดเฉลี่ยดัชนีต่ำสุดอยู่ที่ 1,529 จุด ขณะที่ค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 1,834 จุด และสิ้นปีนี้คาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ 1,782 จุด ส่วนเงินทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ได้รับการโหวตเพียง 51.85%
นายสมบัติกล่าวว่า หุ้นเด่น ที่นักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 5 สำนักขึ้นไป ประกอบด้วย BBL มีปัจจัยบวกจากแนวโน้มส่วนต่างดอกเบี้ยสูงขึ้น ขณะที่สินเชื่อยังเติบโตจากวงจรการลงทุนทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน และได้ประโยชน์จาการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ
BEM มีโอกาสต่ออายุสัมปทานทางด่วนขั้นที่สองออกไปจนอีก 37 ปี อ้างอิงมติล่าสุดของ กทพ.แต่ยังไม่รวมแนวโน้มการเป็นผู้ให้บริการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบิน หลังกิจการร่วมค้าภายใต้การนำของกลุ่มซีพีมีแนวโน้มชนะประมูล
หุ้น CPALL มองรายได้มีศักยภาพเติบโตตามจำนวนสาขาและผลิตภัณฑ์ All Café ที่มีมาร์จิ้นสูง, STEC มีแนวโน้มรายได้และกำไร เข้าสู่ขาขึ้นจากงานในมือ 1.2 แสนล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพียงพอรับรู้รายได้อย่างน้อย 3 ปีข้างหน้า และมีโอกาสได้งานใหม่เพิ่ม และ WHA ได้รับผลดีจากการเดินหน้า EEC เป็นรูปธรรม ทำให้มูลค่าที่ดินที่มีกว่า 1 หมื่นไร่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนจากจีนที่เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น
นายสมบัติ แสดงความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะพิจารณาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 2 ปีและ 10 ปีที่ลดลงไปมาก ทำให้มูลค่าหุ้นดีขึ้น รวมถึงแรงกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ลดลง รวมถึงคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ก่อนหน้านี้ปรับขึ้นดอกเบี้ยไป แต่ก็เชื่อว่าหากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกก็คงจะไม่มาก น่าจะเป็นลักษณะประคับประคอง ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น