3 โบรกฯหวังสูงหุ้นปี’69 ปักเป้า SET 1,400-1,450 ชู 27 หุ้นเด่น

HoonSmart.com>> 3 โบรกเกอร์ฟันธงหุ้นปี 69 ดีกว่าปีนี้ มีลุ้นแรงเก็งกำไรก่อนเลือกตั้ง จากสถิติให้ผลตอบแทน  3-4% โครงการ TISA หนุนเงินไหลเข้า เล็งเป้า SET ที่ 1,400-1,450 จุด EPS 85-94 บาท ธีมลงทุนบริโภค, ท่องเที่ยว, การลงทุน, ดอกเบี้ยขาลง ปันผลดี ชูหุ้นเด่น CPALL, TFG, AMATA, KTB, KTC, TIDLOR, SIRI, OR, CENTEL, HMPRO, GLOBAL, ADVANC, MINT, SPRC, AP, LH, BDMS, WHAUP, GUNKUL, GULF, CPN, AOT, CBG, SCB, PTTGC, SCC, ITC

น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ต้นปี 2569 จะมีการเลือกตั้งซึ่ง เป็นความหวังให้กับนักลงทุน สถิติก่อนการเลือกตั้งมักจะมีแรงเก็งกำไร และอัตราดอกเบี้ยอาจปรับตัวลงได้อีก แต่ภาพเศรษฐกิจน่าจะชะลอตัว จากการส่งออกที่ชะลอตัวลงรับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ ส่วนการท่องเที่ยวคาดว่าจะดีขึ้นจากปี 2568 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 33 ล้านคน และปี 2569 คาดหวังจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน

“เศรษฐกิจปี 2569 คาดว่าจะชะลอตัวลง และการเลือกตั้งเสร็จไม่รู้จะตั้งรัฐบาลใหม่ได้เร็วแค่ไหน ทำให้การเบิกจ่ายของภาครัฐมีโอกาสล่าช้าได้ ซึ่งภาพเศรษฐกิจไม่เป็นบวกต่อบริษัทจดทะเบียน จะมี Sentiment หนุนบ้างในไตรมาส 1-2 ซึ่งเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวอยู่ อาจเข้ามาช่วย แต่ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลใหม่ ต่างต้องหนุนการท่องเที่ยว และส่งเสริมการลงทุน”

นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นการลงทุนในโครงการ TISA ช่วยหนุนตลาดทุน อย่างไรก็ดี มองบริษัทจดทะเบียนยังคงมีกำไรต่อหุ้น (EPS)เติบโตอยู่ที่  93-94 บาท/หุ้น ขณะที่ปี 2568 คาดจะอยู่ที่ 88 บาท ดังนั้นจึงมองเป้าหมายดัชนี SET ปี 2569 ที่ 1,450 จุด คิดเป็น P/E 15-15.5 เท่า ขณะที่ปี 2568 เป้าดัชนี SET อยู่ที่ 1,300 จุด คิดเป็น P/E 14.7 เท่า

สำหรับการลงทุนในปี 2569 จะต้องรอดูรัฐบาลใหม่ แต่เชื่อว่าการดำเนินนโยบายของรัฐบาล คงจะเน้นการกระตุ้นการบริโภค, การท่องเที่ยว, การลงทุน ดังนั้นธีมการลงทุนก็ยังเน้นการบริโภค, ท่องเที่ยว, การลงทุน, ทิศทางดอกเบี้ยที่ยังลงได้อีก และเงินปันผล จึงแนะนำหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ชู CPALL, กลุ่มอาหาร ชู TFG, กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ชู AMATA, กลุ่มธนาคารที่ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลดีเฉลี่ย 5% ได้ ชู KTB, กลุ่มไฟแนนซ์ ชู KTC, TIDLOR, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ชู SIRI, กลุ่มพลังงาน ชู OR ส่วนกลุ่มโรงแรม ชู CENTEL

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ปี 2569 ตั้งเป้าดัชนี SET ไว้ที่ 1,400 จุด คิดเป็น P/E 16 เท่า โดยกำไรต่อหุ้น (EPS) จะใช้ปี 2570 ที่ 85 บาท ซึ่งคาดว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีก  จะมีการยุบสภาในเดือนม.ค. คาดหวังผลตอบแทนในเชิงสถิติเป็นบวก 3-4% ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง และมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐฯจะทำให้ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนดีกว่าปี 2568

สำหรับหุ้นเด่น กลุ่มธนาคารจะเริ่ม Under perform ไตรมาส 2/2569 เป็นต้นไป  หลังคาดกนง.จะลดดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในช่วงครึ่งปีแรก ดังนั้นโอกาสที่ธนาคารจะกำไรดีไม่มีแล้ว   ในช่วงนี้กำไรของกลุ่มธนาคารจะไม่ลดลง เพราะมีกำไรจากพอร์ตลงทุนจากที่ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง

กลุ่มค้าปลีก จะเน้นธุรกิจปรับปรุงบ้าน ดีกว่าทั่ว ๆ ไป จากที่เห็นการฟื้นตัว และราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ ชอบ HMPRO, GLOBAL

กลุ่มสื่อสาร กำไรฟื้นในปี 2569 รายได้ขยายตัว จากปีนี้ที่ต้นทุนลดลงจากการประมูลคลื่น แนะนำ ADVANC ให้ผลตอบแทนปันผลดีด้วย

กลุ่มท่องเที่ยว จะเน้นคุณภาพ แนะนำ MINT, CENTEL คาดหวังจะดีขึ้น

กลุ่มพลังงาน ยังต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมัน  ชอบโรงกลั่นมากกว่าปิโตรเคมี แนะนำ SPRC

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จะเน้นรายใหญ่ เพราะธนาคารยังคงเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ชอบ AP, LH ซึ่งทั้งสองยังให้ปันผลดีด้วย

กลุ่มการแพทย์ ต้องดูจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่มอง Downside จำกัด และยังเป็น Defensive แนะนำ BDMS

บล.บัวหลวง คาดหุ้นทยอยฟื้นตัวได้ในปี 2569 หลังเศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3-4/2568 ถูกกดดันจากเศรษฐกิจโลกถดถอย, ผลกระทบมาตรการภาษีทรัมป์ และยังคงกดดันต่อในไตรมาส 1/2569 แต่คาดเริ่มฟื้นตัวได้ในไตรมาส 2 และฟื้นชัดขึ้นในครึ่งหลังปี 2569

แนวโน้มหุ้นไทยในปี 2569 ดีขึ้นได้แรงหนุนจาก

1. วัฎจักรสะสมสินค้าคงคลังรอบใหม่ คาดหนุนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโลกในปี 2569

2. การลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์  ยื่นขอและอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 ทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุนเพิ่มขึ้น

3. มาตรการกระตุ้นตลาดทุนโครงการบัญชีออมหุ้นระยะยาว (TISA) คาดหนุนเม็ดเงินไหลเข้า

4. นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง จะหนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยกนง.คาดจะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในปี 2569 เหลือ 1% จากคาด 1.25% ในปี 2568

5. การทยอยฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะยังเป็นแรงส่งให้กับภาพเศรษฐกิจและตลาดหุ้น

กลยุทธ์การลงทุนในปี 2569 เน้นหุ้นที่ “กำไรชัด/ปันผลสูง” เน้นไปที่ 1. กลุ่มผู้นำการเติบโต ธีมดาต้าเซ็นเตอร์-Digital transformation แนะนำ WHAUP, GUNKUL, GULF 2. กลุ่มที่กำไรเติบโตต่อเนื่อง/ผ่านจุดต่ำสุด-ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐฯ แนะนำ CPN, CPALL, CENTEL, AOT, CBG 3. กลุ่มปันผลสูง-กระแสเงินสดสม่ำเสมอ-ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นตลาดทุน TISA แนะนำ KTB, SCB, ADVANC และ 4.กลุ่มเชื่อมโยงการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ทั้งกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง แนะนำ PTTGC, SCC, ITC

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการในเรื่องการส่งเสริมการออม และความมั่นคงทางการเงินของประชาชน ที่ได้ผ่านความเห็นชอบในหลักการจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ยังไม่ได้มีการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ในวันนี้ (9 ธ.ค.)  เนื่องจากโครงการมีรายละเอียดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะโครงการบัญชีการออมการลงทุนส่วนบุคคล หรือ Thailand Individual Saving Account (TISA)  คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์หน้า (16 ธ.ค.) พร้อมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เฟส 2

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–