HoonSmart.com>>”แอสเสท เวิรด์ คอร์ป”(AWC) ส่องผลงานไตรมาส 4/68 ส่อแววดีขึ้น จากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว สิ้นต.ค.สัญญาณ RavPAR (รายได้ต่อห้องพัก) เป็นบวก 1-2% และปี 69 จะฟื้นตัวดีขึ้น จากการรับรู้เต็มปีในโรงแรมมีเลีย พัทยา, แมริออท พัทยา และ”จูลาสิก” รวมถึงจะเปิดโรงแรมแฟร์มอนท์ และล้านนาทีคในปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทคงมุ่งจับกลุ่มลูกค้าคุณภาพสูง พร้อมวางกลยุทธ์เติบโตระยะยาว เล็งออกกอง REIT
นายพนิต แย้มประเสริฐ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะดีขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่การท่องเที่ยว โดยสิ้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมาได้เห็น RavPAR (รายได้ต่อห้องพัก) เป็นบวก 1-2% ถือว่าค่อนข้างดี จากการเติบโตทั้งที่เชียงใหม่, สมุย และกระบี่ เป็นต้น ส่วนปี 2569 คาดว่าจะเติบโตได้มากขึ้น จากการรับรู้ในส่วนของโรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล, โรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา, จูลาสิก ซึ่งจะรับรู้เต็มปี และปีหน้ายังมีเปิดโรงแรมแฟร์มอนท์ (Fairmont) จะเปิดในไตรมาส 2/2569 และล้านนาทีค จะเปิดในเดือนมี.ค.2569 ซึ่งจะมาช่วยเติมรายได้, กระแสเงินสด ได้อย่างต่อเนื่อง
“แม้ปีนี้จะมีหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบ แต่คาดว่าปี 2569 จะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งเราพยายาม Target กลุ่มลูกค้าคุณภาพสูง ในปีหน้านักท่องเที่ยวคุณภาพก็จะเข้าไทยต่อเนื่อง…ปัจจัยลบเห็นหมดแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา หลังจากนี้คงจะได้เห็นปัจจัยบวก ปีนี้โรงแรมในสมุย, กระบี่ ทำได้ดี ส่วนกรุงเทพฯได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่คาดหวังว่าปีหน้าจะฟื้น”
นายพนิต กล่าวว่า กลยุทธ์การเติบโตในระยะยาว ได้มองภาพใน 2 แง่มุม ในแง่ของการรับรู้ทรัพย์สินของบริษัททั้งในด้านของการสร้าง Yield ผลตอแทนที่เติบโตขึ้น และยั่งยืนขึ้น กับการรับรู้มูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สิน ในแง่ของการผลักดันกำไรจากการดำเนินงานก็ใช้โมเดลที่เป็น AWC ‘S Lifestyle Destination ผ่านความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ที่ร่วมมือกับ Global Chain ต่าง ๆ ธุรกิจที่เป็น Retail หรือ Commercial ก็ร่วมมือกับทั้ง Global Partner และ Local Partner เพื่อที่จะสร้าง Lifestyle Destination เพื่อที่จะผลักดันศักยภาพของทุก ๆ ทรัพย์สินให้สูงกว่าเดิม
อีกด้านการรับรู้มูลค่าที่แท้จริง ส่งผ่านไปถึงผู้ถือหุ้น เรามีแผนที่จะ Balance และปรับให้เหมาะสมในส่วนของพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งมีพอร์ตโฟลิโอของ AWC และมีส่วนที่เป็น AWC Growth Fund ด้วยในการพัฒนาเมกะโปรเจคของบริษัท ซึ่งวันนี้ก็มองไปถึงการออกกอง REITs ด้วย เป็นหนึ่งทางเลือกที่จะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงไปสู่ผู้ถือหุ้น
“เป้าหมายหลักของเราคือการผลักดัน EBITDA สิ่งที่จะทำคือการเร่งการเปลี่ยนทรัพย์สินที่กำลังพัฒนา(Developing) ประมาณ 35,400 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินการดำเนินการ (Operating) ให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นก็จะต้องผลักดันทรัพย์สิน Ramp-up และ Repositioning ไปสู่ทรัพย์สิน BAU ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะผลักดัน BAU ในระยะยาว และผลักดัน EBITDA ในระยะยาว กลยุทธ์อีกด้านคือการขยายพอร์ตโฟลิโอ”