
โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP นักวางแผนการเงิน
เก่งอย่างไร ของดีอย่างไร ถ้าไม่มีตลาด ก็ไม่มีประโยชน์ อย่างผมเองสะสมอุปกรณ์กีฬา หนังสือ พระเครื่อง ฯลฯ เต็มบ้าน เวลาอยากแลกเป็นเงิน ก็ต้องหาตลาด หาในกลุ่มไลน์บ้าง กลุ่ม facebook บ้าง tiktok บ้าง ฯลฯ
จากบทความเรื่อง Gig Economy สำหรับฟรีแลนซ์ ก็มีแพลตฟอร์มสำหรับพบปะกันระหว่างฟรีแลนซ์กับลูกค้าเช่นกัน ซึ่งมีทั้งแพลตฟอร์มต่างประเทศ และ แพลตฟอร์มในประเทศไทย
แพลตฟอร์มต่างประเทศ
ข้อดี คือ มีงานหลากหลาย ฐานลูกค้ามีมาก โอกาสการได้งานสูง แต่การแข่งขันก็สูงด้วยเช่นกัน และจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ดังนั้น ฟรีแลนซ์ที่จะใช้บริการแพลตฟอร์มต่างประเทศ นอกจากต้องมีความพร้อมด้านทักษะ ฝีมือแล้ว ยังต้องมีความพร้อมด้านภาษาด้วย
ตัวอย่างแพลตฟอร์มต่างประเทศ ที่ใช้กันอยู่ ได้แก่
• Upwork → ใหญ่ที่สุด ครอบคลุมงานเขียน, แปล, โปรแกรม, การตลาด
• Fiverr → เหมาะกับการขายงานเป็นแพ็กเกจ (เช่น ทำโลโก้ 1,000 บาท)
• Freelancer.com → มีทั้งงานประมูลและงานตรง
• Toptal → เน้นสายโปรแกรมเมอร์/นักออกแบบระดับสูง
• 99designs → งานออกแบบโดยเฉพาะ (โลโก้, กราฟิก, UI/UX)
• PeoplePerHour → งานหลากหลาย เช่น เขียนบทความ, แปลภาษา, SEO
แพลตฟอร์มในไทย
ข้อดี คือ เหมาะกับฟรีแลนซ์ที่ไม่มีความพร้อมด้านภาษา หรือฟรีแลนซ์ที่ต้องการเฉพาะฐานลูกค้าไทย การแข่งขันไม่รุนแรงเท่าแพลตฟอร์มต่างประเทศ แต่ฐานลูกค้ามีไม่มาก
ตัวอย่างแพลตฟอร์มในประเทศ ที่ใช้กันอยู่ ได้แก่
• Fastwork → แพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ยอดนิยมในไทย มีทุกสายงาน
• FreelanceBay → มีงานทั้งกราฟิก, เขียน, แปล, IT
• ThaiFreelanceAgency → งานออกแบบ, พัฒนาเว็บ, การตลาด
• Workana (มีภาษาไทย) → รับงานออนไลน์ได้หลากหลาย
• LinkedIn → หา freelance project ผ่าน connection ในไทยและต่างประเทศ

แล้วอย่างนี้ จะเลือกแพลตฟอร์มไหนดี แนะนำง่ายๆ
• ถ้าเอาแบบ เริ่มต้นง่าย ได้งานไวในไทย → แนะนำ Fastwork
• ถ้าอยาก ขยายไปต่างประเทศ → เริ่มจาก Fiverr + Upwork
• ถ้า เก่งสายเฉพาะทาง เช่น Dev / Design → ลอง Toptal + 99designs
อ่านบทความอื่นๆ

