
โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP นักวางแผนการเงิน
คำถามนี้เป็นคำถามเริ่มต้นของแทบทุกคนที่มีความฝัน อยากรวยเร็ว อยากหารายได้เสริม อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ อยากป้องกันความเสี่ยงกลัวถูกเลิกจ้าง (กรณีนี้มีเยอะมากหลังมีข่าวสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่เกษียณก่อนกำหนดที่อายุ 45) ฯลฯ ซึ่งก็เป็นคำถามที่น่าถามนะ เพราะของฟรีไม่มีในโลก การจะทำอะไรต้องมีการลงทุน ไม่ลงทุนเงิน ก็ลงทุนแรง ลงทุนเวลา เราทุกคนก็อยากลงทุนอะไรที่เสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูง คุ้มค่าการลงทุนทั้งนั้น
แต่คำตอบของคำถามนี้ คนที่ตอบได้ดีที่สุด ก็คือ “ตัวเรา” นั่นเอง เพราะอย่างที่บอกในบทความที่แล้ว การเลือกทำอาชีพฟรีแลนซ์ในงานที่ตนเองชอบ หรือ สนใจ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จมีมากกว่า
แต่หากมีงานที่สนใจ หรือ ชอบหลายงาน หรือ ไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบงานอะไร จะมีวิธีในการเลือกอาชีพฟรีแลนซ์อย่างไรดี?
ในเมื่อเป้าหมายของเราหลักๆ คือ เรื่อง “รายได้” และ “ต้นทุน” ว่าคุ้มหรือไม่ เสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น เราก็มากำหนดเกณฑ์ในการเลือก
1. เกณฑ์แรก คือ อาชีพนั้นต้องมีรายได้ดี งานมั่นคง โอกาสเติบโตสูง
2. เกณฑ์ที่สอง คือ ความง่ายในการเริ่มต้น ต้องลงทุนมากน้อยแค่ไหน ต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง เรามีทักษะนั้นหรือไม่ หากไม่มีสามารถเรียนรู้ได้หรือไม่ ต้องใช้เวลาเท่าไร จะเป็นอุปสรรคต่อเวลาทำงานของงานประจำเราหรือไม่
จาก 2 เกณฑ์ดังกล่าว เราสามารถนำมากำหนดแผนที่อาชีพเสริม (Freelance) สำหรับมนุษย์เงินเดือน
กลุ่ม A – เริ่มง่าย + รายได้ดี (เหมาะสำหรับมือใหม่)
ใช้ทักษะที่มีอยู่ ใช้ความสามารถของตัวเองล้วน ไม่ต้องลงทุนมาก ลงทุนแค่เวลา แต่รายได้อาจไม่มากต่อชิ้นงาน งานเหล่านี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้น ตัวอย่างงานประเภทนี้ ได้แก่
• เขียนบทความ / Content Writing → เริ่มจากการเขียนบทความสั้น ๆ
• แปลภาษา → ถ้าเก่งอังกฤษ/จีน/ญี่ปุ่น หางานได้ไว
• สอนพิเศษออนไลน์ → ใช้ความรู้วิชาการหรือทักษะเฉพาะ
• Social Media Admin → ช่วยดูแลเพจ/ตอบแชท
• ขายภาพถ่ายออนไลน์ (Stock Photo)
• รีวิวสินค้า/รีวิวร้าน (Micro influencer)
• แปลซับวิดีโอ/แคปชัน
กลุ่ม B – เริ่มยาก + รายได้ดีมาก (ต้องลงทุน/ฝึกทักษะ)
เป็นกลุ่มงานที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้หรือต้องลงทุนอุปกรณ์ แต่ถ้าเก่งแล้วรายได้สูง ตัวอย่างของงานกลุ่มนี้ได้แก่
• ตัดต่อวิดีโอ / Motion Graphic
• ออกแบบกราฟิก / โลโก้
• ถ่ายภาพ / ช่างภาพอิสระ
• ทำเว็บไซต์ / โปรแกรมมิ่ง
กลุ่ม C – เริ่มยาก + รายได้เฉพาะกลุ่ม
คนที่สนใจงานกลุ่มนี้ต้องมีประสบการณ์เฉพาะด้าน ต้องศึกษาตรงในงานที่เกี่ยวข้อง หลายงานต้องมีใบอนุญาต
งานกลุ่มนี้เน้นลูกค้าเฉพาะกลุ่มเหมือน niche market แต่ต้องลงทุนสูง โดยเฉพาะค่าเล่าเรียน ศึกษา เพื่อพัฒนาความรู้และสร้างทักษะ ประกอบกับการสอบใบอนุญาตมักจะยากเป็นพิเศษ ทำให้คนที่จะทำงานกลุ่มนี้ได้มีจำกัด แต่ผลที่ได้ ก็คือ ค่าตัวสูง ตัวอย่างของงานกลุ่มนี้ ได้แก่
• ที่ปรึกษาการเงิน/การตลาด
• งานบัญชี/ภาษีสำหรับ SMEs
• โค้ชส่วนตัว (สุขภาพ, การงาน)
ถ้าเราเริ่มจากไม่มีอะไรเลยการเริ่มจากกลุ่ม A ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่สำหรับบางคนที่มีความพร้อมอยู่แล้ว อย่างเช่น พนักงานธนาคารบางคนที่มีใบอนุญาตด้านการเงิน เช่น ใบอนุญาตตัวแทนหรือนายหน้าประกันชีวิต นายหน้าประกันวินาศภัย ใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน (IC) ฯลฯ การเริ่มอาชีพในกลุ่ม C ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะมีต้นทุนที่พร้อมอยู่แล้ว
อ่านคอลัมน์อื่นๆ
———————————————————————————————————————————————————–

