HoonSmart.com>>”อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกฯนำคณะมาตลาดหลักทรัพย์ หารือร่วมกับ”สภาธุรกิจตลาดทุนไทย” ซึ่งประกอบด้วย 7 องค์กร เรื่อง”ข้อเสนอจากตลาดทุน เพื่อเสริมพลังภาครัฐ” ทั้งแผนระยะสั้น กลางและระยะยาว พร้อมเป็นเครื่องมือให้ภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศไทย ด้านหุ้นปิดบวกกว่า 5 จุด ต่างชาติกลับมาซื้อกว่า 1,326 ล้านบาท เน้นตัวใหญ่ ดักทางแถลงนโยบายรัฐบาลสัปดาห์หน้า
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว. คลัง นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รมว. พาณิชย์ รมว. พลังงาน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว. พลังงาน และนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช. คลัง หารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ในหัวข้อ “ข้อเสนอจากตลาดทุน เพื่อเสริมพลังภาครัฐ” ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 25 ก.ย.2568
แหล่งข่าวว่า การหารือครั้งนี้ จะมีการเสนอแนวทางการเพิ่มความเชื่อมั่นและการพัฒนาตลาดทุนไทย ทั้งในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ขณะเดียวกันทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทยก็พร้อมที่จะเสนอแนวทางในการเป็นเครื่องมือเสริมพลังภาครัฐ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศไทย
สำหรับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ประกอบด้วยสมาชิก 7 องค์กร คือ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC), สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO), สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET), สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA), สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA), และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (TLCA) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยผ่าน FacebookPaiboon Nalinthrangkurn ว่า ฝากรัฐบาลใหม่สนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้น โดยข้อเสนอในการเพิ่มนักลงทุนระยะยาว1. ยกเว้นภาษีเงินปันผลสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นไทย และถือหุ้นเกิน 1 ปี
2.ให้วงเงินลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนตรงในตลาดหุ้น คนละ 500,000 บาท ต่อปี โดยต้องคงเงินลงทุนไว้ในตลาดหุ้นไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่สามารถซื้อขายเพื่อสับเปลี่ยนตัวหุ้นได้
3.สนับสนุนการลงทุนในกองทุน Thai ESG คนละ 300,000 บาท เหมือนเดิมต่อไป แต่ให้ทำแบบถาวร เพื่อไม่ให้กลายเป็นระเบิดเวลาเหมือนกองทุน LTF ที่ผ่านมา
4.ดึงเม็ดเงินลงทุนจากบริษัทประกันชีวิต โดยลดค่าความเสี่ยงการลงทุนในตลาดหุ้นไทย จาก 25% เหลือ 10% เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเพิ่มนำหน้กการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
5.สร้างแรงจูงใจให้องค์กรภายใต้การบริหารของภาครัฐ เช่น สำนักงานประกันสังคม สำนักงานกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เพิ่มนำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
“ผมเชื่อว่าถ้ารัฐบาลอนุทิน สนับสนุนให้เกิดการลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นไทย ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ โอกาสที่จะเห็นตลาดหุ้นไทยกลับสู่ขาขึ้นแบบยั่งยืน และกลับมาทำหน้าที่แหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพ น่าจะมีสูงทีเดียว”นายไพบูลย์ ระบุ
ทางด้านครม.”อนุทิน1″ จะมีประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ คาดว่าจะมีการหารือร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา หรือ “สมุดปกน้ำเงิน” ซึ่งจะประกอบด้วยนโยบายหลักทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจปากท้อง, ด้านความมั่นคงและชายแดน, ด้านสังคม และภัยธรรมชาติ ซึ่งจะมีการแุลงนโยบายในสัปดาห์หน้า ส่งผลให้เกิดแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากโครงการต่างๆ ทำให้ดัชนีหุ้น SET ปิดที่ 1,278.41 จุด บวก 5.21 จุด หรือ+0.41% มูลค่าซื้อขาย 38,563.93 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 1,326.54 ล้านบาท วันแรกในรอบหลายวันที่ขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถาบันไทยยังคงทิ้งมากถึง -2,538.31 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า วันนี้มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่ม ICT, ค้าปลีก และขนส่ง เช่น ADVANC, GULF, CPALL ซึ่งมองเป็นการรีบาวด์หลังจากที่เมื่อวานนี้ราคาปิดกระโดดลงผิดปกติ และแรงขายนักลงทุนต่างชาติก็ยังมี สัญญาณทางเทคนิคก็ไม่ดี โยนหุ้นออกมาก่อน ซึ่งตลาดหุ้นก็ปรับตัวลง 4-5 วันติดต่อกันแล้ว
แต่วันนี้มีเรื่องการถวายสัตย์ฯของครม.ใหม่ และยังจะมีการประชุมนัดพิเศษในเวลา 1 ทุ่ม ตลาดจึงรีบาวด์ทางเทคนิค และรอดูการแถลงนโยบายของรัฐบาลในสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดช่วงนี้เป็นจังหวะในการเล่นเทรดดิ้ง คงจะไม่ไปไกลมาก แม้จะมีความหวังที่การเมือง แต่ก็ไม่ถึงกับดีมาก พื้นฐานยังไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า บ่ายนี้มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ ในกลุ่ม Domestic play ทั้งหุ้นในกลุ่มสื่อสาร, ค้าปลีก, ธนาคาร และไฟแนนซ์ มองว่าเป็นการเวียนกลับมาเล่นอีกครั้ง จากให้น้ำหนักมาตรการะตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ซึ่งวันนี้ก็จะมีการประชุมนัดพิเศษในเวลา 1 ทุ่ม ก็คงจะลุ้นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และรัฐบาลจะแถลงในสัปดาห์หน้า
แนวโน้มตลาดในช่วง 3-6 เดือน่ข้างหน้า หุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศจะได้ประโยชน์ ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่ม Domestic play ที่ยังน่าสนใจ สำหรับตัวเลขส่งออกไทยเดือนส.ค.ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และในช่วง 4 เดือนหลังจากนี้ก็คงจะออกมาติดลบทุกเดือน เพราะมีการเร่งส่งออกไปแล้ว อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้หากดัชนี SET ปิดเหนือ 1,280 จุดได้ ตลาดก็ยังใช้ได้