ดาวโจนส์ปิดบวก 10 จุด จับตาถ้อยแถลงประธานเฟด

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 10 จุด สวนทางดัชนี S&P 500 ปิดลบแรงขายหุ้นเทค Nvidia นำกลุ่ม นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 19 สิงหาคม 2568 ปิดที่ 44,922.27 จุด เพิ่มขึ้น 10.45 จุด หรือ +0.02 แต่ดัชนี S&P 500 ปิดลบจากการร่วงลงของหุ้น Nvidia และการปรับลงของหุ้นเทคโนโลยีในวงกว้าง ขณะที่นักลงทุนจับตาคำกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เจอโรม พาวเวล ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคมนี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,411.37 จุด ลดลง 37.78 จุด, -0.59%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,314.95 จุด ลดลง 314.82 จุด, -1.46%

นักวิเคราะห์บางคนคาดว่า เจอโรม พาวเวลล์ จะส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สำหรับเดือนกันยายน ริชาร์ด ซาเพอร์สไตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ Treasury

Partners กล่าวว่า คาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%ในเดือนกันยายน และคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนถึงสิ้นปีในการประชุมที่แจ็คสันโฮล อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการประชุมครั้งนี้น่าจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายที่แจ็คสันโฮลของพาวเวลล์ในฐานะประธานเฟดจึง มีความเป็นไปได้สูงที่พาวเวลล์จะเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำงานที่เป็นอิสระของเฟด

หุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และผู้ผลิตชิปชื่อดังลดลง โดยหุ้น Nvidia ลดลง 3.5% ขณะที่ Advanced Micro Devices และ Broadcom ลดลง 5.4% และ 3.6% ตามลำดับ หุ้นPalantir บริษัทซอฟต์แวร์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ลดลงมากกว่า 9% ทำให้เป็นหุ้นที่ลดลงมากสุดในดัชนี S&P 500 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ เช่น Tesla , Meta Platforms และ Netflix ก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นกัน

แรงกดดันต่อหุ้น AI เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่การฟื้นตัวของตลาดโดยรวมเริ่มแสดงสัญญาณของการสลับกลุ่มลงทุนไปนอกบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ หลังจากแซม อัลต์แมน ซีอีโอของบริษัท OpenAI ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าว The Verge ว่า หุ้นกลุ่มนี้กำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่

เจย์สัน บรอนเชตตี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของลินคอล์น ไฟแนนเชียล กล่าวว่าการซื้อขาย AI อาจจะยังไม่ถึงจุดปรับลง แต่อาจกำลังพัก หลังจากที่ดัชนี NASDAQ พุ่งขึ้นกว่า
40% นับตั้งแต่เดือนเมษายน ตามปกติแล้ว การหยุดชะงักถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากตลาดกำลังปรับตัวตามข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดและนโยบายของเฟดที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตามดัชนีดาวโจนส์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน ด้วยแรงหนุนจากหุ้น Home Depot พุ่งขึ้น 3.17% หลังจากบริษัทยังคงคาดการณ์รายได้ตลอดปีบัญชี 2025 แม้รายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าคาด

หุ้น Lowe’s ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งของ Home Depot เพิ่มขึ้น 2.18% ก่อนที่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ นักลงทุนยังจับจากการายงานผลประกอบการของ Walmart และ Target ในสัปดาห์นี้เช่นกัน

หุ้น Intel) พุ่งขึ้น 7% หลังจาก SoftBank บริษัทเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ประกาศ ซื้อหุ้นIntel มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงาน ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 5.2% มาที่ 1.428 ล้านยูนิต และการอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 2.8% มาที่ 1.354 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี

นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ในสัปดาห์นี้ ทั้งรายงานการประชุมเดือนกรกฎาคม ของเฟด, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน ขณะที่นักลงทุนประเมินโอกาสการยุติสงครามในยูเครน หลังจากการเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐฯ ยูเครน และยุโรป ณ กรุงวอชิงตันเมื่อวันจันทร์

ตลาดได้รับแรงหนุนจากความหวังที่จะมีการเจรจาเพิ่มเติมเพื่อคลี่คลายสงครามของรัสเซียในยูเครน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะรับประกันความมั่นคงให้กับยูเครนในการประชุมสุดยอดกับผู้นำยูเครนและกลุ่มผู้นำยุโรป แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดมากนัก และกล่าวว่ากำลังดำเนินการจัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีระหว่างสหรัฐฯ รัสเซีย และยูเครน

เมื่อวันอังคาร ทรัมป์กล่าวว่าเขาหวังว่าปูตินจะเดินหน้าเพื่อยุติสงคราม แต่ยอมรับว่าผู้นำรัสเซียอาจไม่ต้องการทำข้อตกลง

นักลงทุนยังจับการประชุมสัมมนาประจำปีที่แจ็คสันโฮลของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกด้วย เพื่อประเมินสัญญาน จากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เกี่ยวกับนโยบายการเงิน

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 557.81 จุด เพิ่มขึ้น 3.80 จุด,+0.69%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,189.22 จุด เพิ่มขึ้น 31.48 จุด, +0.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,979.08 จุด เพิ่มขึ้น 95.03 จุด, +1.21%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,423.07 จุด เพิ่มขึ้น 108.30 จุด, +0.45%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศร่วงลง 2.6% ถือเป็นวันที่ลดลงมากสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน และเป็นหุ้นที่ร่วงลงมากที่สุดในดัชนี STOXX 600

หุ้น Leonardo ของอิตาลีร่วงลง 10.2% มากที่สุดในดัชนี หุ้น Hensoldt และ Renk Group ร่วงลง 9.5% และ 8.3% ตามลำดับ ขณะที่ Rheinmetall ร่วงลง 4.9%

หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น โดยหุ้นกลุ่มยานยนต์และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 2.4% และ 1.6% ตามลำดับ

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูปรับสูงขึ้นจากแรงหนุนของ Moncler ที่เพิ่มขึ้น 4.9% และ Burberry เพิ่มขึ้น 5.1%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.69% ปิดที่ 62.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.22% ปิดที่ 65.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–