หุ้นโตเกียว-เอเชียเช้านี้ร่วง คาดเฟดลดดอกเบี้ยก.ย. OPEC เพิ่มกำลังผลิต

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วกว่า 2% ในช่วงสั้นๆ ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงแรงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ อ่อนแอเกินคาด ด้านเงินเยนแข็งค่า “ตลาดหุ้นเอเชีย” มีทั้งบวกและลบ นักลงทุนประเมินโอกาสการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนหน้า พร้อมจับตาราคาน้ำมันหลัง OPEC+ ตกลงปรับเพิ่มกำลังการผลิตครั้งใหญ่

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวลงโดยดัชนี Nikkei ร่วงลงอย่างรวดเร็วกว่า 2% ในช่วงสั้นๆ ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ร่วงลงแรงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว และจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ อ่อนแอเกินคาด

ในตลาด Prime Market หุ้นที่นำการปรับลง ได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์

เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมากในนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ประจำเดือนกรกฎาคมแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวของตลาดแรงงาน และทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

ณ เวลา 9.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่น ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 147.33-34 เยน เทียบกับ 147.34-44 เยนในนิวยอร์ก และ 150.53-55 เยนในโตเกียว เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันศุกร์

ณ เวลา 9.50 น. ตามเวลาประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 40,134.97 จุด ลดลง 664.63 จุด, -1.63%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกมีทั้งปรับขึ้นและปรับลง เนื่องจากนักลงทุนประเมินรายงานเกี่ยวกับภาษีศุลกากรและข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯที่อ่อนแอ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และทำให้ประเมินโอกาสการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนหน้า

การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 73,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่งในการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones นอกจากนี้ตัวเลขการจ้างงานเดือนมิถุนายนมีการปรับแก้เป็น 14,000 ตำแหน่ง ลดลงจาก 147,000 ตำแหน่ง การจ้างงานในเดือนพฤษภาคมปรับลดลงเหลือ 19,000 ตำแหน่ง จาก 125,000 ตำแหน่ง บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังอ่อนตัวลงมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.2%

นักลงทุนเกิดคำถามเกี่ยวกับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ตลาดจะประเมินความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน แต่ตลาดเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากหุ้นสหรัฐฯพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน จากการคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถต้านทานพายุภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้

หลังจากข้อมูลการจ้างงาน นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ซึ่งเป็นสองเท่าของอัตราปกติ

เจมี ค็อกซ์ จาก Harris Financial Group กล่าวว่า เดือนกันยายนเป็นเดือนที่แน่นอนว่าจะต้องลดอัตราดอกเบี้ย และอาจเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไป

นักลงทุนยังจับตาราคาน้ำมันหลังจากที่ OPEC+ ตกลงที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตครั้งใหญ่ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกินทั่วโลก ในขณะที่สงครามการค้าที่นำโดยสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการบริโภคพลังงาน

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวว่าเขาจะประกาศผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่ และนักสถิติข้อมูลการจ้างงานคนใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งการแต่งตั้งสองตำแหน่งนี้อาจส่งผลต่อวาระทางเศรษฐกิจของเขา

นอกจากนี้ยังจับตาการแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่ หลังจากทรัมป์ระบุว่าจะประกาศผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่ และผู้อำนวยการสำนักงานสถิติคนใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งการแต่งตั้งสองตำแหน่งนี้อาจส่งผลต่อวาระทางเศรษฐกิจของเขา

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า เอเดรียนา คูเกลอร์ ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ทรัมป์มีโอกาสแต่งตั้งผู้กำหนดนโยบายที่สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของเขาในการลดอัตราดอกเบี้ย อีกทั้ง ในวันศุกร์ ทรัมป์ยังได้ปลด เอริกา แมคเอนทาร์เฟอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากข้อมูลตลาดแรงงานแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของการจ้างงานที่อ่อนแอ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดคาดการณ์อัตราการจ้างงานในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,56.9 จุด เพิ่มขึ้น 4.95 จุด, +0.14%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 24,590.6 จุด เพิ่มขึ้น 82.79 จุด, +0.34%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 3,135.46 จุด เพิ่มขึ้น 16.05 จุด, +0.51%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 23,323.47 จุด ลดลง 110.91 จุด , -0.47%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 0.11 ดอลลาร์หรือ 0.16% ซื้อขายที่ 67.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 0.17 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ซื้อขายที่ 69.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–