
โดย..สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP นักวางแผนการเงิน
ครั้งนี้เรามาลงรายละเอียดของความเสี่ยงส่วนบุคคล 8 ประเภทที่กล่าวไปในครั้งที่แล้วกันนะ
1.ความเสี่ยงด้านความสัมพันธ์กับคนอื่น (Relationship Risk)
เป็นความเสี่ยงเกี่ยวกับการดำเนินความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น เราสามารถใช้หลัก A CAT ได้เช่นกัน เช่น หากเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อเรา เช่น นายจ้าง หากเราผิดใจกับนายจ้างความเสียหายก็เกิดได้มาก ดังนั้นวิธีในการลดความเสี่ยง ก็คือ ลดโอกาสที่จะผิดใจกับนายจ้าง แต่หากเป็นคนทำงานในบริษัทเดียวกัน แต่อยู่กันคนละสาขา ไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกัน นานๆพบกันที โอกาสที่จะผิดใจกันมีน้อย และถึงมีก็ไม่ได้ส่งผลเสียหายกับเรา เราก็ไม่ต้องทำอะไรกับคนๆนี้ เป็นต้น
2. ความเสี่ยงด้านหนี้สิน (Liability Risk)
เมื่อปี 2562 ก่อนวิกฤติ Covid แบงค์ชาติได้สำรวจภาวะหนี้ครัวเรือนไทย พบว่า ครัวเรือนไทยติดกับดักหนี้ (Debt Trap) และมีหนี้สินล้นพ้นตัว (Over-indebtedness) และมี 3 สัญญาณสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาหนี้สินเกินตัวเริ่มบั่นทอนและเพิ่มความเสี่ยงแก่ฐานะทางการเงินของภาคครัวเรือน
• สัญญาณแรก คือ เป็นหนี้เร็วขึ้น โดยเริ่มก่อหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย อีกทั้ง 1 ใน 5 ของผู้กู้ในช่วงอายุ 29 ปีกลายเป็นหนี้เสีย
• สัญญาณที่สอง คือ เป็นหนี้เยอะขึ้น ปริมาณหนี้สินต่อหัวสูงขึ้นกว่าในอดีต และผู้กู้โดยเฉลี่ยมีภาระหนี้รวมทุกประเภทสินเชื่อ เพิ่มขึ้นจาก 377,109 บาท เป็น 552,499 บาทในช่วงเวลา 10 ปี
• สัญญาณที่สาม คือ เป็นหนี้นานขึ้น ภาระหนี้ไม่ได้ลดลงแม้ผู้กู้จะย่างเข้าสู่วัยเกษียณ
Covid ทำให้รายได้ขาดหาย ค่าใช้จ่ายยังมีอยู่ ทำให้โอกาสเป็นหนี้สูงขึ้น และมากขึ้น ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาส 1/2564 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14.13 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90.5% ต่อจีดีพี สูงสุดในรอบ 18 ปีตามสถิติที่มีการเก็บรวบรวมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสูงขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 89.4% ต่อจีดีพี ในไตรมาสที่ 4/2563
วิธีการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านหนี้สิน
• ถ้าเป็นหนี้อยู่แล้ว ก็ลดขนาดของความเสียหาย โดย
• อย่าก่อหนี้เพิ่ม ปิดหนี้หรือจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงเช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล
• รีไฟแนนซ์หนี้จากหนี้ดอกเบี้ยสูง ไปหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า
• เปลี่ยนประเภทหนี้ เช่น จากหนี้นอกระบบ เป็นสินเชื่อบุคคล
• ศึกษาและเข้ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19
• ถ้ายังไม่เป็นหนี้ ก็ลดโอกาสของการเป็นหนี้ ด้วยการบริหารรายรับ รายจ่ายให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือ การหารายได้เพิ่มจากงานเสริม หรือ นำเงินฝากในธนาคารที่ดอกเบี้ยต่ำมาลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
3. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย (Safety Risk)
“ปลอดภัย ไว้ก่อน” คำเตือนตามเขตก่อสร้าง ก็สามารถเตือนใจเราได้ดี เช่น ไม่เข้าไปใกล้บริเวณที่เกิดการจลาจล หรือ ไม่เข้าไปในบริเวณที่พบคนติดเชื่อ Covid เป็นต้นการเลือกอุปกรณ์ เครื่องใช้ ที่มีคุณภาพดี ความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่รถยนต์ ก็มีเครื่องมือช่วยหลายอย่างเช่น เข็มขัดนิรภัย ถุงลมแอร์แบคที่กางออกหากรถมีการกระแทกที่บริเวณคนขับหรือคนนั่งข้างหน้ากระจกที่แตกละเอียดไม่ทำอันตรายต่อคนในรถ โครงหลังคาที่เป็นเหล็กกล้า กันชนที่มีสมรรถนะในการหยุดการกระแทกของรถคันอื่น การล็อกรถและห้ามขับหากตรวจพบระดับแอลกอฮอล์ในตัวผู้ขับขี่ การแสดงเส้นทางการขับล่วงหน้า การตั้งเวลาในการขับรถอัตโนมัติ สัญญาณกันขโมย ไฟถอยหลังที่มีเสียงเตือน เป็นต้น
4. ความเสี่ยงด้านทรัพย์สิน (Property or Asset Risk)
ตัวเราก็คือ ทรัพย์สินที่มีค่า บ้าน รถ ก็เป็นทรัพย์สินที่มีค่า เราจึงต้องดูแลลดโอกาสที่ตัวเราหรือทรัพย์สินจะเสียหาย เช่น ถ้าเป็นรถ ก็ตรวจเช็คสภาพอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น และควรต้องทำประกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันรถ ประกันอัคคีภัย เพื่อลดขนาดของความเสียหาย เป็นต้น
5. ความเสี่ยงด้านการเงินหรือด้านการลงทุน (Financial / Investment Risk)
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” เป็นคำเตือนที่บอกถึงความเสี่ยงจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการขาดทุน หรือ การขาดสภาพคล่อง ฯลฯ แต่การไม่ลงทุนเลย ก็ไม่ใช่ว่าไม่เสี่ยง เพราะเราจะขาดทุนแน่ๆจากเงินเฟ้อที่จะทำให้เงินเราด้อยค่าลงทุกวัน
6. ความเสี่ยงด้านสุขภาพ (Health Risk)
Covid แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพได้เป็นอย่างดี จากตัวเลขผู้เสียชีวิตจาก Covid ส่วนใหญ่จะเป็นคนสูงอายุ (อายุเกิน 60 ปี) หรือ คนที่มีโรคประจำตัว เพราะสุขภาพของคนกลุ่มนี้จะมีความต้านทานโรคต่ำ
ความเสี่ยงด้านสุขภาพ จะตามมาด้วยค่ารักษาพยาบาลที่แพง โชดดีที่เรามี “บัตรทอง” หรือ “บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลได้ในระดับหนึ่ง
7. ความเสี่ยงด้านอาชีพการงาน (Employment Risk)
เป็นความเสี่ยงกรณีเกิดความไม่มั่นคงในหน้าที่การงาน ถูกเลิกจ้าง ถูกลดรายได้ ฯลฯ Covid ทำให้ความเสี่ยงด้านอาชีพการงานชัดเจน รุนแรง และมาเร็วกว่าที่คาด พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เทคโนโลยีทำให้หลายๆธุรกิจต้องล้มหาย หรือเปลี่ยนรูปแบบ หลายๆอาชีพต้องหยุดไป เช่น ธุรกิจหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
8. ความเสี่ยงด้านสภาพแวดล้อม (Environmental Risk)
Covid มา จนพวกเราลืมเรื่องฝุ่น PM2.5 ลืมเรื่องภาวะโลกร้อน ลืมเรื่องภัยธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง ภัยน้ำท่วม ฯลฯ ที่ยังอยู่รอบๆตัวเรา แต่ Covid ก็มีข้อดี คือ ช่วยให้เรากลับมาสนใจที่จะดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
จากความเสี่ยงที่เราต้องประสบพบเจอ 8 ประเภท แต่ละคนก็อาจพบเจอความเสี่ยงคนละประเภท แต่ละคนอาจพบความเสี่ยงไม่เท่ากัน บางคนอาจพบบ่อย บางคนอาจพบน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การมีสติ ไม่ประมาท คือ เครื่องในการบริหารความเสี่ยงที่ดีที่สุด
อ่านบทความอื่นๆ
คอลัมน์ความจริงความคิด : A CAT ที่ไม่ใช่แมว 1 ตัว แต่คือ การบริหารความเสี่ยง ตอน 1
———————————————————————————————————————————————————–

