HoonSmart.com>>บล.เมย์แบงก์ (MST) เปิดงบไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิเหลือ 2.19 ล้านบาท วูบกว่า 95% รายได้ค่านายหน้า 204.67 ล้านบาท ลดลง 13.88% เหตุมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ลดลงเหลือ 40,799.84 ล้านบาท/วัน หรือ -8.74% ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 กำไรสุทธิ 2.19 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.004 บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 46.82 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.08 บาท
ส่วนงวดครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 133.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.24 บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 218.14 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.38 บาท
บริษัทฯ ชี้แจงผลดำเนินงานไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิลดลง 44.64 ล้านบาท หรือ -95.33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 46.82 ล้านบาท สาเหตุจากรายได้ค่านายหน้าลดลง 32.98 ล้านบาท หรือ -13.88% เหลือ 204.67 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 24.21 ล้านบาท หรือ -12.31% เหลือ 172.45 ล้านบาท เป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ลดลงจาก 44,708.45 ล้านบาท/วัน เหลือ 40,799.84 ล้านบาท/วัน หรือ -8.74% และสัดส่วนนักลงทุนบุคคลซึ่งเป็นส่วนรายได้หลักของบริษัทลดลง 52.57% เหลือ 49.80% ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคลของบริษัทลดลงจาก 995.61 ล้านบาท/วัน เหลือ 887.15 ล้านบาท/วัน หรือลดลง 10.89%
รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 8.77 ล้านบาท จาก 40.99 ล้านบาท เป็น 32.22 ล้านบาท ลดลง 21.40%
ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 21.63 ล้านบาท หรือ -52.81% เหลือ 19.33 ล้านบาท เนื่องมาจากค่าที่ปรึกษาทางการเงินลดลง 16.01 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการยืมและให้ยืมหลักทรัพยลดลง 4.44 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมจากการจัดจําหน่ายหลักทรัพย์ลดลง ขณะที่ค่าธรรมเนียมจากการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพิมขึ้น 3.89 ล้านบาท
รายได้ดอกเบี้ยลดลง 43.31 ล้านบาท หรือ -16.16% เหลือ 225.17 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลง 26.58 ล้านบาท และรายได้ดอกเบี้ยจากเงินฝากในสถาบันการเงินและพันธบัตรลดลง 16.44 ล้านบาท
นอกจากนี้รายได้อื่นลดลง 6.15 ล้านบาท ขณะที่กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินเพิ่มขึ้น 6.21 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่ายรวมลดลง 50.25 ล้านบาท หรือ -9.47% อยู่ที่ 480.35 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานลดลง 14.44 ล้านบาท เป็นต้น