KKP กำไร 1,061 ลบ. Q1/68 วูบ 29.5% รายได้ลดลง สำรองเพิ่มขึ้น

HoonSmart.com>>”ธนาคารเกียรตินาคินภัทร” (KKP) เปิดกำไรไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 1,061.62 ล้านบาท ลดลง 29.5% จากงวดปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 15.4% สินเชื่อชะลอตัว ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ด้านผลขาดทุนจากขายรถยึดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2568) กำไรสุทธิ 1,061.62 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.28 บาท ลดลง 29.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,506.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.78 บาท

ธนาคารชี้แจงกำไรลดลง โดยหลักมาจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับลดลง 15.4% อยู่ที่ 4,446 ล้านบาท จากการชะลอตัวของสินเชื่อตามมาตรการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารที่มุ่งเนน้การปล่อยสินเชื่อไปในประเภทที่มีคุณภาพสูงและจากการลดลงของอัตราดอกเบี้ยตามการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิยังสามารถทำได้ในระดับที่ดี โดยปรับเพิ่มขึ้น 16.4% โดยหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและธุรกิจจัดการกองทุน ที่มีรายได้ปรับเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การให้คำแนะนำการลงทุนและสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2567 สำหรับไตรมาส 1/2568 บล.เกียรตินาคินภัทร ยงัคงมีส่วนแบ่งตลาดในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 22% ในขณะที่กำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนปรับลดลงตามภาวะตลาด ส่งผลให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยรวมแล้วปรับตัวลดลง 4.6%

ด้านผลขาดทุนจากการขายรถยึดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่694 ล้านบาท ลดลง 51.9% จากไตรมาส 1/2567 ธนาคารยังคงความระมัดระวังในการพิจารณาต้้งสำรอง โดยผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับไตรมาส 1/2568 มีจำนวน 1,104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7% จากไตรมาส 4/2567 และเพิ่มขึ้น 81.3% จากไตรมาส 1/2567

สำหรับอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 131.0% ในขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 4.4%

ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 3,515 ล้านบาท ลดลง 18.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการที่ธนาคารมุ่งเน้นบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการลดลงของผลขาดทุนจากการขายรถยึดที่จำนวน 694 ล้านบาท ตามปริมาณรถยึดที่ทยอยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินรอการขาย อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้สุทธิในไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 46.8% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–