HoonSmart.com>>ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้น SP หุ้น “สามชัย สตีล อินดัสทรี” (SAM) วันที่ 18 มี.ค.68 ก่อนปลดเครื่องหมาย 19 มี.ค. กรณีผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน สิ้นสุด 31 ธ.ค.67 หลังบริษัทย่อยในกัมพูชาขายสินค้าต่ำกว่าราคาทุน ทำขาดทุนหนัก ด้านก.ล.ต.อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้ ตลาดฯ ยังเพิ่มเหตุขึ้น CS เตือนนักลงทุน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งการขึ้นเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี (SAM) ในวันที่ 18 มี.ค.2568 และจะปลดเครื่องหมายในวันที่ 19 มี.ค. 2568 เนื่องจากบริษัทได้นำส่งงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2567 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าว ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้
นอกจากนี้ขึ้นเครื่องหมาย Caution เหตุเพิ่มเติมการขึ้น CS ในวันที่ 19 มี.ค.2568 เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น/ไม่ให้ข้อสรุป สำหรับงบการเงิน ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่ถูกขึ้นเครื่องหมายข้างต้น จะต้องซื้อด้วยบัญชี Cash Balance (คือ สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้า วางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนก่อนซื้อหลักทรัพย์นั้น) ตั้งแต่วันที่ขึ้นเครื่องหมายเป็นต้นไป จนกว่าจะแก้เหตุดังกล่าวได้
ด้าน SAM ชี้แจงกรณีที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินประจำปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567 ว่า สาเหตุเกิดจากบริษัทย่อยในประเทศกัมพูชามีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 1,959,766 USD (ประมาณ 68.02 ล้านบาท) โดยบริษัทย่อยขายสินค้าต่ำกว่าราคาทุน ทำให้มีผลขาดทุนขั้นต้น 2,898,398 USD (ประมาณ 105.33 ล้านบาท) คิดเป็น 45.02% ของราคาทุนสินค้า สาเหตุหลักเกิดจากการคัดแยกสินค้าเก่าค้างสต็อกที่เสียหายเพื่อระบายออกจากคลังสินค้าผู้ตรวจสอบบัญชีไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีสินค้าเสียหายดังกล่าวรวมอยู่ในสินค้าคงเหลือที่ยกมาจากงวดก่อนจริงหรือไม่ เนื่องจากบริษัทย่อยไม่ได้ทำรายงานการคัดแยกสินค้าและจัดทำหลักฐานการรวบรวมสินค้าเสียหายก่อนขายออกไป
ผู้ตรวจสอบบัญชีได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการตรวจสอบเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 และคณะกรรมการตรวจสอบได้ว่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 โดยยังไม่พบรายงานผิดปกติใดๆ แต่ขอบเขตการตรวจสอบยังไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องปกติทางธุรกิจ
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.พ.68 สำนักงาน ก.ล.ต. มีหนังสือสั่งการให้บริษัทจัดให้มีการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทกำลังดำเนินการสรรหาผู้ตรวจสอบบัญชีพิเศษ (Special Audit) เพื่อดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าว