ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 120 จุด บนความหวังสหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลงการค้า ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ไม่มีความจำเป็นเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมหรือเพิ่มอัตราภาษีที่เก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน ส่วนเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเตือนนักลงทุนอย่าตั้งความหวังว่าจะมีข้อตกลงเกิดขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 16 พ.ย. 2561 ที่ 25,413.22 จุด เพิ่มขึ้น 123.95 จุด หรือ 0.49% ด้วยความหวังว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะได้รับการแก้ไข หลังจากประธนาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีความจำเป็นเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมหรือเพิ่มอัตราภาษีที่เก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน และไม่ต้องการที่จะกดดันให้จีนตกอยู๋ในสถานะที่เลวร้าย
อย่างไรก็ตามตลาดกลับอ่อนตัวจากระดับสูงสุดของวันหลังเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวออกมาให้ความเห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์เพียงแค่พอใจที่จะมีการเจรจาและเตือนนักลงทุนว่าอย่าตั้งความหวังว่าจะมีข้อตกลงเกิดขึ้น ทั้งนี้ประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดพบปะกับประธานาธิบดี สี่ จิ้น ผิงของจีนในการประชุมกลุ่มประเทศ G-20 ในปลายเดือนพ.ย.นี้
ธนาคารกลางเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 5 และเพิ่มขึ้น 4.1% เทียบจากปีก่อน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง ด้วยความกังวลต่อแนวโน้มผลประกอบการจากความต้องการสินค้าและชิป ซึ่งเป็นชิ้นส่วนเทคโนโลยีที่ลดลงในหลายตลาดทั่วโลก
หุ้น Nvidia ลดลง 19% จากรายได้ไตรมาส 3 ต่ำกว่าคาดและมีสัญญาณว่ายังมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าคาด ประกอบ Stifel Nicolaus ปรับราคาเป้าหมายลงมาที่ 200 จาก 250 ดอลลาร์ต่อหุ้น
หุ้นสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้นโดยหุ้น พีจีแอนด์อี คอร์ป เพิ่มขึ้น 37.54% หุ้นเอดิสัน อินเตอร์เนชั่นแนลเพิ่มขึ้น 15.38%
หุ้นแอปเปิลกลับมาบวกเพิ่มขึ้น 1.11%
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,736.27 จุด เพิ่มขึ้น 6.07 จุด,+0.22%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,247.87 จุด ลดลง 11.16 จุด, -0.15%
ทางด้านตลาดยุโรปปิดลบ นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์ทางการเมืองของอังกฤษและสถานะผู้นำรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเทรเรซา เมย์ หลังจากรัฐมนตรีหลายคนลาออก รวมไปถึงจับตาการถอนตัว (Brexit)ออกจากสหภาพยุโรป(อียู) เพราะเกรงว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากอียู แบบไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ อย่างไรก็ตามค่าเงินปอนด์มีเสถียรภาพมากขึ้นจากที่อ่อนค่าในวันก่อนหน้า โดยกลับมายืนที่ 1.2866 ต่อดอลลาร์ในช่วงบ่าย
หุ้นกลุ่มธนาคารยังลดลง โดยหุ้นอาร์บีเอสลดลง 3.3% หุ้นลอยด์แบงก์ลดลง 1.71% หุ้นบาร์เคลย์ลดลง 0.88%
หุ้นโฟลค์สวาเก้นลดลง 2.5% หลังประกาศใช้เงิน 44 พันล้านยูโร เพื่อการปรับธุรกิจไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,013.88 จุด ลดลง 24.13 จุด,-0.34%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 357.71จุด ลดลง 0.72 จุด,-0.20 %
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,025.20 จุด ลดลง 8.42 จุด,-0.17
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,341.00 จุด ลดลง 12.67 จุด, -0.11
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมไม่เปลี่ยนแปลงปิดที่ 56.46 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 66.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์