“คิงส์ฟอร์ด” คาดแรงขายหุ้นอิเล็กฯ-พลังงานกดดัชนีแนวรับ 1,330 จุด

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีถูกดดันจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ และกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ วางแนวรับดัชนี 1,330 จุด แนวต้าน 1,350 – 1,355 จุด ด้านตลาดหุ้นเทคโนโลยีร่วง NVIDIA -16.8% หลัง Deepseek สตาร์ทอัพจีนเปิดตัว AI ส่วนพรุ่งนี้ติดตามผลประชุมเฟดคาดคงดอกเบี้ย แนะ ทยอยซื้อกลุ่ม Domestic Play หุ้นแบงก์-ไฟแนนซ์ หุ้นปันผลสูง พร้อมคัดหุ้นแนะนำ TASCO, ERW

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,330 จุด แนวต้าน 1,350 – 1,355 จุด คาดดัชนีถูกดดันจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ และกลุ่มพลังงานที่ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ แนะนำทยอยซื้อกลุ่ม Domestic Play ที่ได้ปัจจัยบวกจาก มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ เช่น กลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC,BJC หุ้นกลุ่มธนาคารและไฟแนซ์BBL,KTB,SCB,TILDOR กลุ่มจ่ายปันผลสูง เช่น SIRI, AP, 3BBIF, DIF, CPNREIT

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ WTI มี.ค. ลดลง 1.49 เหรียญสหรัฐฯ อยู่ที่ 73.17 เหรียญสหรัฐฯ/ บาร์เรล, Brent มี.ค. 1.42 เหรียญสหรัฐฯ อยู่ที่ 77.08 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล หลัง Deepseek เปิดตัวโมเดล AI มีประสิทธิภาพเหนือกว่า ChatGPT ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า อาจส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานในศูนย์ Data Center มีแนวโน้มลดลง กอปรข้อมูล PMI ภาคผลิตจีน ม.ค. ปรับลดลงอยู่ที่ 49.1 กลับสู่โซนถดถอยอีกครั้ง

ประเด็นที่ต้องติดวันนี้ คือ ผลการประชุม ครม.และรายงานข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเข้าสู่ช่วงการรายงานงบ Q4/67 ของกลุ่ม Real Sector เช่น SCC,SCGP,PTTEP

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA ปิด +0.65%, S&P500 -1.46%, Nasdaq -3.07% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย NVIDIA -16.8% หลัง Deepseek เปิดตัว AI โมเดล R1 แบบ Open Source ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า ChatGPT ของ OpenAI ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า 6 ล้านดอลลาร์ และใช้ชิป H800S มีประสิทธิภาพต่ำกว่าของ Nvidia ส่งผลให้มีคำถามต่อการใช้งบประมาณพัฒนา AI และสร้างศูนย์ Data Center ของผู้พัฒนาฝั่งสหรัฐ จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia -16.8%

สัปดาห์นี้ติดตามรายงานกำไรของ Microsoft, Meta, Apple ,Tesla, วันพุธ ผลการประชุมเฟดคาดคงดอกเบี้ยที่ 4.25 – 4.5%, วันพฤหัส US GDP Q4/67 คาด +2.7% & Q3/67 +3.1% QoQ และวันศุกร์ US PCE ธ.ค. คาด +2.5% YoY และ พ.ย. +2.4% YoY

หุ้นเด่นแนะนำ TASCO (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 20.80 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q67 ยังคงเติบโต YoY หนุนจากยอดขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม QoQ ปริมาณขายจะลดลงจากฐานสูงที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ทั้งนี้จาก product mixed ที่สัดส่วนยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นทำให้ GPM ปรับตัวดีขึ้นตาม (YoY) ขณะที่การตั้งสำรองหนี้สูญมีแนวโน้มลดลงหลังสถาการณ์ของลูกหนี้ดีขึ้นจากการเบิกจ่ายงบ ส่วนแนวโน้มปี 68 มีปัจจัยหนุนจากทั้งปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่น่าจะดีขึ้น โดยตั้งเป้า 1.2 ล้านตัน จากไม่มีการล่าช้าของงบประมาณ

หุ้น ERW (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 5.15 บาท) การดำเนินงานปกติในช่วง 4Q67 ยังมีปัจจัยบวกตามฤดูกาล(จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 4Q67 +17%YoY +10%QoQ) และม.กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ รวมถึงการ renovate โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ที่เสร็จสิ้น ซึ่งทาง ERW* คาด 4Q67 จะมี Occ. Rate ที่ 80% และ ARR ที่ +8-10%QoQ, +5-7%YoY นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มโรงแรมยังมี sentiment บวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 13-19 ม.ค.67 ที่ผ่านมา +1%WoW,+ 15%YoY หนุนด้วยนักท่องเที่ยวจีน ปัจจุบัน ตลาดคาด Adj. EPS ปี67 และ 68 ของ ERW* ที่ 0.18 บาท/หุ้น( +13%YoY) และ 0.19 บาท/หุ้น(+4%YoY)