“มอร์แกน สแตนเลย์”ชี้ปี 68 ปีทองหุ้นสหรัฐฯ “MFC” ชูกองทุน M-USEQUH, M-USEQH

HoonSmart.com>> “มอร์แกน สแตนเลย์” ฟันธงปี 68 ปีทอง “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ” รับปัจจัยหนุนจากเฟดเริ่มลดดอกเบี้ย นโยบายแบบ Pro-growth ของ “ทรัมป์” หนุนตลาด ด้านนักลงทุนพักเงินใน “มันนี่ มาร์เก็ต” จำนวนมากรอเข้าซื้อหุ้น มองเป้าดัชนี S&P 500 ปีหน้าที่ระดับ 6200 – 6500 จุด พร้อมคาดการลงทุนผสมระหว่างหุ้น Growth และ Value สร้างผลตอบแทนที่ดี ด้าน MFC แนะกองหุ้นสหรัฐฯ “M-USEQUH และ M-USEQH”

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี (MFC) เผยทิศทางและมุมมองหุ้นสหรัฐฯ กับ Morgan Stanley ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ยูเอส คอร์ อิควิตี้ Unhedged (M-USEQUH) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ยูเอส คอร์ อิควิตี้ Hedged (M-USEQH) โดยในปี 2568 ผู้จัดการกองทุนยังมีมุมมองบวกต่อหุ้นสหรัฐฯ สภาวะ Bull market ยังจะดำเนินต่อในปี 2567 จากเหตุผลสนับสนุนดังนี้

Fed เริ่มลดดอกเบี้ย
นโยบายแบบ Pro-growth ของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นสหรัฐฯ โดยรวม
นักลงทุนยังถือเงินสดใน Money Market อยู่จำนวนมาก เพื่อรอการลงทุนในตลาดหุ้น
เป้าหมายดัชนี S&P 500 ปี 2025 อยู่ที่ 6200 – 6500

 

 

กองทุน M-USEQUH และ M-USEQH มีนโยบายลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ บริหารแบบเชิงรุก โดยปรับเปลี่ยนสไตล์การลงทุนให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด ผ่านการลงทุนในกองทุน Morgan Stanley Investment Funds US Core Equity Fund ที่ได้รับ Morningstar 5 ดาว

จุดเด่นของกองทุนผสมผสานระหว่าง Style Position Engine และ Stock Selection Engine เพื่อคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง พร้อมการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุ่นในการกำหนดสไตล์การลงทุน เช่น Value, Growth, Quality หรือ Momentum เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มและภาวะตลาด รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทำให้พอร์ตสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี อย่างสม่ำเสมอ ในทุกสภาวะตลาด

ปัจจุบันการจัดพอร์ตลงทุนของกองทุนหลัก มีการผสมการลงทุนระหว่างหุ้น Growth และ Value คาดว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในปีหน้า

สำหรับหุ้น Value กองทุน Overweight หุ้นกลุ่มการเงิน โดยเฉพาะบริษัทการเงินที่ทำธุรกิจ Asset management และ Investment banking โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลดดอกเบี้ยของเฟด และสภาวะตลาดหุ้นอยู่ในช่วง Bull market

ส่วนหุ้น Growth กองทุน Overweight หุ้นกลุ่ม Consumer discretionary แม้ในช่วงที่ผ่านมาระดับ Valuation จะปรับตัวสูงขึ้น แต่ผู้จัดการกองทุนมองว่ายังไม่เข้าสู่ระดับที่แพงจนเกินไป และมองว่าเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Pro-growth policy ของทรัมป์

ขณะที่หุ้น Defensive อย่าง Healthcare, Consumer staples หรือ Utilities กองทุนให้น้ำหนัก Underweight เนื่องจากสภาวะตลาดในตอนนี้ยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะ Bear market แบบเต็มตัว

 
 
———————————————————————————————————————————————————–