PTG มั่นใจผลงานปีนี้ทำได้ตามเป้า แย้มซื้อหุ้นคืนเมื่อถึงเวลาเหมาะสม

HoonSmart.com>>”พีทีจี เอ็นเนอยี”(PTG) มั่นใจผลงานปีนี้ทำได้ตามเป้าหมายทั้งธุรกิจน้ำมัน(Oil) และ Non-Oil ชู EBITDA 9 เดือนแรกปีนี้เติบโต 15.8% ทะลุเป้าโต 8-12% สวนการขยายสาขาก็ไม่พลาดเป้า โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทยเป้าปีนี้ 1,282 สาขา ปีหน้าจะขยายอีก 600-800 สาขา และภายใน 5 ปีข้างหน้าเป้า 5 พันสาขา ส่วน AUTOBACS เป้า 5 ปีขยายให้ถึง 300 สาขา พร้อมเตรียมนำ ATLAS เข้าตลาด SET หลังขาย IPO แล้ว PTG จะคงเหลือถือหุ้น 70.5% แย้มซื้อหุ้นคืนเมื่อถึงเวลาเหมาะสม เมินตัดหุ้นทิ้งเพราะจะกระทบการทำธุรกิจ

นายปรเมษฐ์ สงวนโชควณิชย์ ผู้อำนวยการอาวุโสประจำสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Head of IR บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานปีนี้มีเป้าหมายยอดขายน้ำมัน (Oil)เติบโต 10-15% YoY โดย 9 เดือนที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายน้ำมันได้ 13.6% อยู่ในกรอบเป้าหมายของปีนี้แล้ว ขณะที่ยอดขายของธุรกิจ Non-Oil เป้าปีนี้เติบโต 40-50% 9 เดือนปีนี้ทำได้ตามเป้าแล้วเติบโต 45.5% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit) ทุกวันนี้ทำได้ 24.5% ใกล้เคียงเป้าหมายปีนี้ 25-30% และ EBITDA ทำได้ 15.8% ทะลุเป้าหมายเติบโต 8-12%

ปีนี้ (2567) เป้าหมายการขยายสถานีให้บริการน้ำมัน 2,251 สถานี ซึ่ง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ทำไปได้แล้ว 2,214 สถานี ส่วนของ Non-Oil มีเป้าขยาย 2,243 Touchpoints โดย 9 เดือนทำไปได้แล้ว 1,878 Touchpoints ธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยปีนี้เป้าหมาย 1,282 สาขา ซึ่ง 9 เดือนทำได้ 1,124 สาขา และปี 2568 มีเป้าจะขยายสาขา 600-800 สาขา และภายใน 5 ปีข้างหน้ามีเป้าสาขาถึง 5,000 สาขา ส่วน AUTOBACS ตอนนี้มี 103 สาขา และไตรมาส 4 จะเพิ่มสาขาอีก ซึ่งมีเป้าขยายสาขาให้ถึง 300 สาขาภายใน 5 ปี หรืออาจทำเร็วกว่าได้ โดยปัจุบัน AUTOBACS สามารถทำกำไรได้แล้ว มีเพียง Max Mart ที่ยังขาดทุนอยู่แต่ก็ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

“จำนวนสาขาของ Oil Station ตอนนี้อยุ่ที่ 2,214 แต่อยากให้โฟกัสตัวพันธุ์ไทย ณ วันนี้มี 1,126 สาขา ตั้ง Target ไว้ 1,282 สาขา เราเชื่อว่าจะทำได้ตามนี้ หรือมากกว่า ส่วน Oil เราโตจาก Same Store เป็นหลักแล้วตอนนี้ ขณะที่จำนวนลิตรของ Oil ถ้าจำได้เมื่อต้นปีเราตั้ง Target ไว้ที่ 10-12% แต่พอผ่านมาครึ่งปีเราเติบโตได้เกินเป้า จึงได้มีการ Review ขึ้นเป็น 10-15% ณ วันนี้ทำได้ 13.6% ทำได้ตามเป้าที่วางไว้อยู่”

สำหรับงบลงทุนเป้าหมายปีนี้ 4,000-5,000 ล้านบาท ตอนนี้ใช้ไปแล้ว 3,100 ล้านบาท ใช้ในการขยาายสาขาพันธุ์ไทย และมีธุรกิจใหม่ และมีการขยายสาขาอื่นของ AUTOBACS รวมถึงการรีโนเวทสาขาต่าง ๆ ด้วย

“วันนี้ยอดขายสาขาเดิม (Same-Store Sales Growth) ของธุรกิจ Oil เติบโตมากกว่า 10% ขณะที่ Non-Oil เติบโต 20-30% แสดงให้เห็นว่าเราได้รับการตอบรับที่ดีที่หน้าสถานี และหน้าร้านที่ดี”

นอกจากนี้ เตรียมนำบริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี (ATLAS) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดย ATLAS ประกอบธุรกิจจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas:LPG) ในภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม ภายใต้เครื่องหมายการค้า “PT” และเป็นผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรา 7 ประเภทก๊าซ LPG โดยเสนอขายหุ้น IPO 418.42 ล้านหุ้น หลังขาย IPO แล้ว ทาง PTG จะถือหุ้น ATLAS อยู่ 70.5%

นายรังสรรค์ พวงปราง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงิน และความยั่งยืน PTG กล่าวถึง”ปาล์มคอมเพล็ก”ว่า สถานการณ์ไบโอดีเซลปัจจุบันทรง ๆ ตัว แต่ปาล์มที่ดีขึ้น จากน้ำมันพืชเพื่อการบริโภค ซึ่งไม่มีความเสี่ยงจากนโยบายภาครัฐ ในเรื่องราคาไบโอดีเซล หรือสัดส่วนการผลิตไบโอดีเซล นับตั้งแต่วันนี้ (21 พ.ย.) เป็นต้นไปภาครัฐประกาศลดอัตราส่วนผสมของไบโอดีเซลไปไม่ให้เกิน 5% จากเดิม 7% ซึ่งทำให้ยังเห็น Over Supply ของไบโอดีเซลอยู่ ดังนั้นต้องรอดูไตรมาส 4 ต่อไป ส่วนบริษัทรับซื้อไบโอดีเซลไม่มีผลกระทบเท่าไร แต่น้ำมันปาล์มเพื่อบริโภคช่วยสร้างผลประกอบการให้อยู่ ดังนั้นปาล์มคอมเพล็กก็น่าจะยังทรงตัวอยู่ ยังทำกำไรได้อยู่

“ในแง่งบการเงินจะเห็นได้ว่าไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีการ Take กำไรมาส่วนหนึ่ง ซึ่งมาจากการลงทุนในปาล์ม ด้วยการกำหนดราคาที่มีแนวโน้มลดลง และเราสามารถขาย Product และ Product ที่เกี่ยวข้องกับปาล์มได้ในราคาสูงขึ้น”

สำหรับเรื่องการซื้อหุ้นคืนนั้น บริษัทก็รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมถึงจะซื้อหุ้นคืน ส่วนการตัดหุ้นทิ้ง ตอนนี้ยังไม่มอง เพราะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย ซึ่งถ้าตัดหุ้นทิ้งก็จะลดกระแสเงินทุน อาจกระทบการทำธุรกิจของบริษัทฯได้

———————————————————————————————————————————————————–