หยวนต้าแนะ SIRI-ASW-SPALI ‘พฤกษาฯ’ขายต่างชาติพุ่ง ต่ออายุแคมเปญ

HoonSmart.com>>บล.หยวนต้าวิเคราะห์กลุ่มอสังหาฯ คาดปีนี้กำไรลดลง 15% ปีหน้าเหนื่อย เจอสารพัดความท้าทาย ชูปัจจัยบวก ราคาหุ้นร่วงไปมาก รับปัจจัยลบแล้ว น่าเลือกซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลสูง 7-8 %  เชียร์ SIRI-ASW-SPALI  ด้านบริษัทพฤกษาฯคุยปีที่ผ่านมายอดขายต่างชาติผ่านเอเจนต์รวม 2,300 ล้านบาท พุ่งขึ้น 114% ขยายเวลาแคมเปญส่งท้ายปีนี้ ปูทางสู่ความสำเร็จในตลาดระดับลักชัวรี 

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) วิเคราะห์กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ วันที่ 20 พ.ย.2567 คาดผลประกอบปี 2567 ลดลง 15% จากปีก่อน แนวโน้มปี 2568 เผชิญความท้าทาย จากปัจจัยมหภาคทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคชะลอตัว หนี้เสียที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นและความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่ออยู่ในระดับสูง  โดยคาดว่ารัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นช่วยพยุงกลุ่ม เช่น ทบทวนเกณฑ์ต่างชาติ สิทธิลดหย่อนภาษี ต่ออายุและเปิดเพดานส่วนการลดโอน จดจำนอง

ขณะที่กำลังซื้อของต่างชาติจะมีบทบาทสำคัญช่วยชดเชยความต้องการในประเทศที่ลดลง

อย่างไรก็ตามราคาหุ้นกลุ่มอสังหาฯช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลง 10% และ YTD ลดลงถึง 24% มองว่าสะท้อนปัจจัยลบและแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอไปพอสมควรแล้ว

ปัจจุบันราคาหุ้นกลุ่มฯซื้อขายบน P/E ต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี และบางตัวมีอัตราผลตอบแทนปันผลสูง 7-8% ต่อปี จึงมอว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เน้นถือรับเงินปันผล

” คงน้ำหนัก Neutral กลยุทธ์เลือกซื้อรายตัว”

บล.หยวนต้าแนะนำ SIRI ให้ราคาเป้าหมาย 2.14 บาท ASW 10.30 บาท เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน รับผลกระทบจำกัด และคาดกำไรปี 2567-2568 ทำระดับสูงสุดใหม่ รวมถึงการเปิดโครงการใหม่ในจ.ภูเก็ต รองรับความต้องการของต่างชาติที่เพิ่มขึ้น

ส่วน SPALI ให้ราคา 22.80 บาท ความสามารถในการระบายสินค้าคงคลัง โครงการแนวสูงสร้างเสร็จพร้อมขายและโอนในไตรมาส และความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไร แม้การแข่งขันสูงในตลาดก็ตาม

ทางด้านนายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท  เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับเอเจนต์ทั้งในไทยและต่างประเทศเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ ที่จะช่วยให้พฤกษาฯประสบความสำเร็จในการขยายตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ นำเสนอโครงการที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่างชาติได้ ขณะเดียวกัน เอเจนต์ก็มีฐานลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทย  ในอนาคตมุ่งขยายตลาดไปยังโครงการระดับลักชัวรีและแนวราบ ระดับราคาเริ่มต้นที่ 15 ล้านบาท เพิ่มเติมจากโครงการแนวสูง และพร้อมเปิดโอกาสรับพันธมิตรใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยขยายเครือข่ายการขายให้กว้างขึ้นด้วย

“ในปีที่ผ่านมา พฤกษามียอดขายกลุ่มลูกค้าที่มาจากความร่วมมือกับเอเจนต์ทั้งในไทยและต่างประเทศรวม 2,300 ล้านบาท เติบโตกว่า 114%  เราต้องการเปิดรับเอเจนต์เพิ่มเติม และเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้   จึงได้ประกาศขยายเวลาแคมเปญ Ultimate Incentive รับเพิ่มสูงสุดอีก 1.2% และแคมเปญพิเศษรับเพิ่มอีก 10,000 บาทต่อยูนิต รวมคอมมิชชั่นและ incentive สูงสุดกว่า 11% สำหรับทุกยูนิตที่เอเจนต์ขายและโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในปี 2567 นี้ โดยหวังว่ากระตุ้นแรงจูงใจ และสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ”นายธีระกล่าว
 
 
———————————————————————————————————————————————————–