“วิน พรหมแพทย์” แม่ทัพคนใหม่บลจ.กสิกรไทย ตั้งเป้า AUM แตะ 2 ล้านลบ.ใน 3 ปีข้างหน้า

HoonSmart.com>>”วิน พรหมแพทย์” แม่ทัพคนใหม่ บลจ.กสิกรไทย (KAsset) เดินหน้าสานต่อแนวคิด “Top of Mind Investment House” ตั้งเป้าผลักดัน AUM ภายใต้บริหารแตะ 2 ล้านล้านบาท ใน 3 ปีข้างหน้า เร่งขับเคลื่อนธุรกิจโค้งสุดท้ายปีนี้สู่เป้าหมาย 1.8 ล้านล้านบาท พร้อมส่งต่อแนวคิดจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite Portfolio สู่ลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล

วิน พรหมแพทย์

นายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยหลังจากเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2567 ที่ผ่านมาว่า บลจ.กสิกรไทย ถือเป็นบลจ.ชั้นนำและเป็นผู้นำระดับ Top 3 ทั้งในธุรกิจกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป้าหมายทางธุรกิจอยากเห็นการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ(AUM) ภายใต้บริหารทั้ง 3 ธุรกิจเติบโตแตะระดับ 2 ล้านล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านล้านบาทและเดินหน้าสู่เป้าหมายในสิ้นปีนี้ที่ 1.8 ล้านล้านบาท

“สิ่งที่จะทำในปีนี้และปีหน้าเดินหน้าขยายแนวคิดการจัดพอร์ตลงทุน แบบ Core & Satellite Portfolio ส่งต่อไปยังกลุ่มลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคลเห็นโอกาสในการกระจายลงทุนหลายสินทรัพย์ทั่วโลก จากที่ผ่านมาเริ่มต้นจากลูกค้ากองทุนรวม อยากให้คนไทยมีพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง มีความสมูธ ซึ่ง Core Portfolio จะเติบโตไปกับตลาดหุ้น แม้ตอนหุ้นขึ้นจะขึ้นไม่เยอะ แต่ตอนหุ้นลงก็ลงไม่มาก อยู่กลางๆ ผลตอบแทนไม่หวือหวาเกินไป นอนหลับสบาย ไม่ติดดอยเยอะ ไม่ติดลบเยอะ”นายวิน กล่าว

ทั้งนี้ การจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite Portfolio แบ่งเป็นส่วนที่ 1 : Core Portfolio สัดส่วน 80% ของพอร์ต กระจายการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ เน้นการกระจายความเสี่ยงเป็นหลัก เป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกกองทุนเพื่อจัดพอร์ตเองได้ หรือสามารถลงทุนในกองทุนผสม ซึ่งมีนโยบายกระจายการลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ส่วนที่ 2 : Satellite Portfolio เน้นลงทุนระยะสั้นแบบจับจังหวะตลาด (Market Timing) ประมาณ 20% ของพอร์ต เลือกกองทุนได้ตามสถานการณ์การลงทุนในเวลานั้นเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร

ปัจจุบันบลจ.กสิกรไทยมีกองทุน Wealth PLUS ซึ่งเป็นกลุ่มกองทุนผสมที่มีการจัดพอร์ตการลงทุนแบบสำเร็จรูปในสัดส่วนการลงทุนที่แตกต่างกัน เพื่อให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน โดยมีนโยบายกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภททั่วโลก (Asset Allocation) ทั้งตราสารหนี้ หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก ไม่ได้กระจุกตัวในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมากตั้งแต่ปีก่อน

นายวิน กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงดำเนินงานตามแผนภายใต้แนวคิด Top of Mind Investment House โดยยึดหลัก 1 Goal 3 Focus 5 Priorities อย่างต่อเนื่อง ให้ความสำคัญกับการวางรากฐานใน 5 ด้าน ได้แก่

1) มุ่งสร้างผลตอบแทน จากการบริหารจัดการกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่โดดเด่นอย่างสม่ำเสมอ

2) มุ่งสร้างประสิทธิภาพของพอร์ต จากการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite Portfolio

3) มุ่งสร้างความน่าเชื่อถือ จากการให้คำแนะนำการลงทุนที่ทันต่อเหตุการณ์อย่างตรงไปตรงมา

4) มุ่งสร้างเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มลูกค้า จากการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม

5) มุ่งสร้างความเชี่ยวชาญ จากการให้มุมมองการลงทุนเชิงลึกภายใต้ชื่อ Know The Markets

โดยรากฐานทั้งหมดจะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ทั่วโลก การวางโครงสร้างการลงทุนอย่างยั่งยืน และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและคู่ค้า เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย 1.80 ล้านล้านบาทในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567

“สำหรับทิศทางการพัฒนาเพื่อการแข่งขัน บลจ.กสิกรไทย เตรียมพัฒนาโซลูชันการลงทุนกับ 2 พันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำระดับโลกทั้ง J.P. Morgan Asset Management ในฐานะ Strategic Partnership ที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก กับอีก 1 พันธมิตรที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน Lombard Odier ที่มุ่งเน้นการกำหนดยุทธศาสตร์ในการวางโครงสร้างการลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มศักยภาพการบริหารจัดการกองทุน และยกระดับมาตรฐานการทำงานในทุกมิติ”นายวิน กล่าว

—————————————————————————————————————————————–
 

 

อ่านข่าวอื่นๆ

KAsset มองหุ้นปีนี้ 1,500 จุด ปีหน้า 1,600 ชูพอร์ต Core & Satellite สู้ความผันผวน