PRM ปักธง ! ครึ่งปีหลังโตแกร่ง …เพิ่มกองเรือ-ซื้อกิจการ หนุนผลงาน

HoonSmart.com >> PRM แย้มครึ่งหลังโตมั่นคง  อัตราการใช้เรือพุ่ง เล็งปิดดีลซื้อกิจการ “ตัวแทนออกของ”  หนุนกลยุทธ์ Logistics ครบวงจร 

 

นางสาวสุธาสินี หมื่นละม้าย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพาณิชย์และการลงทุน บริษัท พริมา มารีน (PRM)  เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทครึ่งหลังปี 2567  คาดเติบโตต่อเนื่อง-มั่นคง โดยธุรกิจ Offshore Support Vessels (OSV) มีแนวโน้มเติบโตในทิศทางที่ดี จากการขยายกองเรือตั้งแต่ต้นปี ประกอบกับใช้กองเรืออย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สัญญาระยะยาว สอดคล้องกับกิจกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ที่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มกำลังการผลิตในอ่าวไทย

ขณะที่ธุรกิจเรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (FSU) มีสัญญาณบวกเติบโตจากปีที่แล้ว ตามการฟื้นตัวของดีมานด์ในเรือ FSU สวนทางราคาเฉลี่ยต้นทุนเชื้อเพลิงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (PCT) คาดมีดีมานด์ช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็น High Season ของภาคการท่องเที่ยวหนุนอัตราการใช้เรือเติบโต

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเข้าซื้อกิจการผู้ให้บริการตัวแทนออกของ (Shipping & Ship Agent) เบื้องต้นคาดว่าจะปิดดีลภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ และรับรู้รายได้ทันที ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อยอดการเติบโตในธุรกิจเดิม รวมทั้งสร้างโอกาสขยายธุรกิจให้บริการ Logistics ครบวงจร โดยมีแผนขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากกลุ่มปิโตรเลียม อาทิ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการนำเข้าส่งออกเพิ่มมากขึ้น

ล่าสุด วันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา บริษัททำสัญญาต่อเรือใหม่จำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นเรือ “Crew Boat” งบลงทุน 350 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งการดำเนินธุรกิจ รองรับความต้องการเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล ที่มีแนวโน้มเร่งขยายกำลังการผลิตตามความต้องการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และซัพพลายเรือในธุรกิจนี้มีจำกัด คาดว่าจะรับมอบเรือทั้ง 2 ลำ ช่วงเดือน มี.ค. และ ก.ค. 2568 ตามลำดับ  ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าว มีงานรองรับแล้ว  ส่งผลให้บริษัทมีเรือ Crew Boat ให้บริการรวมทั้งสิ้น 17 ลำ ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเข้าซื้อเรือ FSU เพิ่มเติมอีก 1 ลำ โดยปัจจุบันมีเรือ FSU ทั้งหมด 5 ลำ และแผนซื้อเรือ Aframax  1 ลำ  ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา หากมีความชัดเจนจะรายงานให้ทราบอีกครั้งภายหลัง

ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนสั่งต่อเรือ Small tanker ใหม่อีกจำนวน 6 ลำ ขนาดประมาณ 2,500 เดทเวทตัน (DWT) โดยมีกำหนดการรับเรือในช่วงต้นปี 2569 เชื่อมั่นว่าภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทนับจากนี้จะเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต