”หุ้นเอเชีย“เช้านี้มีทั้งบวก-ลบ จับตาประชุมธนาคารกลาง

HoonSmart.com>>“ตลาดหุ้นเอเชีย“เช้านี้มีทั้งปรับตัวขึ้น-ลดลง จับตาประชุมธนาคารกลางและข้อมูลเศรษฐกิจหลายประเทศในภูมิภาค “ตลาดหุ้นโตเกียว” ร่วงจากแรงขายทำกำไรหลังดัชนีขึ้น 5 วันติด

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวลง จากการขายทำกำไรของนักลงทุนหลังดัชนี Nikkei ปรับ-ขึ้นติดต่อกัน 5 วัน
         
ในกลุ่ม Prime Market กลุ่มที่นำการปรับลง ได้แก่ กลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มบริการ และกลุ่มค้าปลีก
         
คำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน(Core machinery orders )ของญี่ปุ่นเดือนมิถุนายนลดลง 1.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น1.8% คำสั่งซื้อเครื่องจักรถือเป็นตัวชี้วัดการใช้จ่ายการลงทุน
         
ในสัปดาห์นี้ ญี่ปุ่นกำหนดรายงานข้อมูลเงินเฟ้อ
         
นายคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นมีกำหนดเข้าร่วมประชุมวาระพิเศษที่รัฐสภาของญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งมีผลต่อตลาดโลก            
         
ในขณะเดียวกัน กองทุนเฮดจ์ฟันด์มีมุมมองต่อค่าเงินของญี่ปุ่นว่าเป็นขาขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับอย่างรวดเร็วจากมุมมองเชิงลบอย่างมากในกลุ่มเทรดเดอร์ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม
         
ณ เวลา 9.17 น. ในประเทศไทย
         
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 37,996.37 จุด ลดลง 66.3 จุด , -0.17%
 
 
         
ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวขึ้นและปรับลง นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลาง และการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจหลายประเทศในภูมิภาค รวมไปถึงการประชุมประจำปีธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 สิงหาคมซึ่งคาดว่า ประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ จะส่งสัญญาณว่าการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดจะเกิดขึ้น

“ตลาดการเงินจะอ่อนไหวต่อทุกคำพูดของประธานเฟด” นักกลยุทธ์ของ Commonwealth Bank of Australia ที่นำโดยโจเซฟ คาเพอร์โซ ระบุในบทวิเคราะห์ “เราคาดว่าพาวเวลล์จะไฟเขียวการปรับลดในวันที่ 19 กันยายน แต่เราคาดว่าพาวเวลล์จะยังคงเปิดทางที่จะเลื่อนการปรับลดออกไป หรือปรับลดในขนาดใหญ่ขึ้น โดยขึ้นอยู่กับ CPI และการจ้างงานเดือนถัดไป”
         
ในบทวิเคราะห์ที่ส่งลูกค้าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โกลด์แมน แซคส์ ได้ลดความน่าจะเป็นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ในปีหน้าลงเหลือ 20% จาก 25% โดยอ้างอิงข้อมูลยอดค้าปลีกและข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้ว หากรายงานการจ้างงานเดือนสิงหาคมที่จะเผยแพร่ในวันที่ 6 กันยายน “ดูดีพอสมควร ก็อาจลดความน่าจะเป็นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยลงเหลือ 15%”
           
ในเอเชีย สัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาดูการประชุมธนาคารกลางในอินโดนีเซียและเกาหลีใต้เพื่อหาสัญญาณของการผ่อนคลายนโยบาย ในขณะที่การตัดสินใจของประเทศไทยจะมีความสำคัญอย่างยิ่งหลังจากมีรายงานว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศอาจยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญ
         
นักลงทุนยังการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อญี่ปุ่น และสิงคโปร์ รวมทั้งการเผยแพร่รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย
         
ในจีน คาดว่าธนาคารกลางจีน(the People’s Bank of China:PBOC) จะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี(Loan Prime Rates)ระยะเวลา 1 ปี และ 5 ปี หลังจากที่ PBOC ธนาคารกลางจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงการดำเนินการในระยะต่อไปเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมเตือนว่าจะไม่ใช้มาตรการ “รุนแรง”
         
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 2,900.15 จุด เพิ่มขึ้น 21.12 จุด, +0.73%
         
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 17,654.26 จุด เพิ่มขึ้น 224.1 จุด, +1.29%
         
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,688.04 จุด ลดลง 9.19 จุด, -0.34%
         
ดัชนี TAIEX  ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ 22,363.61 จุด เพิ่มขึ้น 14.28 จุด,+0.06%
         
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนไม่เปลี่ยนแปลง ซื้อขายที่ 76.65 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 0.07 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ซื้อขายที่ 79.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล